รักษามะเร็งปอดด้วยเทคนิคบาดแผลเล็ก
ไม่ต้องผ่าตัด แผลเล็กกว่าสิบเท่า

ในปี 2564 พลเอกยุวนัฏได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งปอดและเข้ารับการผ่าตัดปอดด้านขวาในประเทศไทย ได้รับการคีโมแบบทั่วร่างกายและฉายแสง อย่างไรก็ตาม มะเร็งของเขาไม่ได้รับการควบคุมและเกิดการแพร่กระจายหลายจุด เนื่องจากอายุมากแล้วและเป็นโรคความดันโลหิตสูงอย่างรุนแรง ร่างกายของเขาไม่สามารถทนรับความเจ็บปวดไหว ในเดือนมีนาคม 2567 เขามาค้นหาวิธีการรักษาที่ทันสมัยกว่าเดิมที่โรงพยาบาลของเรา หลังจากการคีโมเฉพาะจุดเพียง 2 ครั้ง ก้อนมะเร็งก็เล็กลง 60% การหายใจลำบาก และอาการต่างๆ หายไป และการใช้ชีวิตก็กลับมาเป็นปกติ

“การคีโมเฉพาะจุดเป็นเหตุผลหลักที่เราเลือกมารักษาที่นี่ เนื่องจากการคีโมเฉพาะจุดสามารถหลีกเลี่ยงเนื้อเยื่อปกติที่ไม่ถูกเซลล์มะเร็งลุกลาม เมื่อเทียบกับการให้คีโมทั่วไปที่ฉีดยาเคมีบำบัดทางหลอดเลือดดำแล้ว วิธีการรักษาอันทันสมัยนี้ มีประสิทธิภาพในการปกป้องเนื้อเยื่อปกติ"การคีโมแบบทั่วร่างนั้นเป็นวิธีที่เปรียบเหมือนเหรียญสองด้าน"

ผมชื่ออมร มาจากประเทศไทย ในช่วงต้นเดือนมีนาคม 2562 ไปหาหมอเนื่องจากอาการไอปนเสมหะ ร่วมกับอาการปวดหน้าอกและหลังด้านขวา ต่อมาผมได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งปอดด้านขวาระยะที่ 3 มีการแพร่กระจายไปยังต่อมน้ำเหลืองที่กะบังลม

เนื่องจากวิธีการรักษาในประเทศไทยนั้นมีเพียงการผ่าตัดแบบทั่วไป การฉายแสงและคีโมทั่วร่างกาย ผมต้องการหาวิธีการรักษามะเร็งที่ดีและมีประสิทธิภาพมากกว่า ต่อมาผมได้รู้จักโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวสแตมฟอร์ด และเทคโนโลยีการรักษาแบบบาดแผลเล็กผ่านอินเทอร์เน็ต หลังจากเปรียบเทียบหลายครั้งและปรึกษาแพทย์อย่างละเอียด ผมมาที่นี่พร้อมครอบครัวในวันที่ 29 มีนาคม

ตอนผมเพิ่งเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลครั้งแรก สภาพร่างกายแย่มาก ปวดหลังมากจนทำได้เพียงนอนบนเตียงเท่านั้น ถ้านอนราบหรือตะแคงจะรู้สึกปวด เวลาไอจะยิ่งปวดหนัก หลังจากการรักษาครั้งแรก อาการไอและปวดก็ดีขึ้นมาก ต่อมาเมื่อทำการตรวจซ้ำ ก้อนเนื้อในปอดก็เล็กลงมาก จุดที่แพร่กระจายบริเวณอื่นๆ ก็หายไปหมด!

ฉันแซ่เหลียง ปีนี้อายุ 75 มาจากอีโปห์ ประเทศมาเลเซีย

เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2567 จู่ๆ ฉันก็รู้สึกหัวใจเต้นแรงและเจ็บหน้าอก หลังจากไปตรวจที่โรงพยาบาลในท้องที่พบว่าเป็นมะเร็งปอด มีก้อนเนื้อที่ปอดข้างซ้าย 2 ก้อน ก้อนนึงมีขนาด 3.4 *4.5*3.4 ซม. และ 4.4 * 2.5 * 3.6 ซม. ทั้งยังมีน้ำท่วมปอดระดับปานกลาง หลังจากนั้น ฉันได้รับคีโมที่โรงพยาบาลในท้องที่ ซึ่งมันช่วยบรรเทาอาการของฉันได้บ้าง แต่ก็ทำให้เกิดผลข้างเคียงด้วย เช่น น้ำหนักลดฮวบ 7 กิโลกรัม และผมร่วง

น้องชายของเพื่อนร่วมงานฉันเป็นมะเร็งปอดระยะที่ 4 เขาเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่แสตมฟอร์ดกว่างโจว และประสบความสำเร็จอย่างน่าทึ่ง ฉันเลือกที่จะมาที่นี่ตามคำแนะนำของเขา ในวันที่ 6 มีนาคมของปีเดียวกัน หลังการรักษา อาการน้ำท่วมเกือบครึ่งหนึ่งของปอดหายไปเกือบหมด มะเร็งที่ปอดและต่อมน้ำเหลืองก็เล็กลงอย่างเห็นได้ชัด อาการหายใจลำบากและไอที่เป็นมานานก็หายไปเช่นกัน! (ก่อนการรักษา VS หลังการรักษา)

ฉันชื่อหวังฮุ่ยหลิง จากปะหัง ประเทศมาเลเซีย ในเดือนมีนาคม 2562 ฉันไปหาหมอเพราะมีอาการไออย่างต่อเนื่อง และได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งปอดระยะที่ 3 ขณะนั้น ในปอดด้านขวาฉันมีก้อนเนื้อขนาดประมาณ 10 ซม. แพทย์ในท้องที่แนะนำให้คีโมและกินยา แต่เมื่อแพทย์บอกฉันว่าวิธีนี้ลดขนาดก้อนเนื้อได้เพียง 30% ทั้งยังอาจดื้อยาและต้องเปลี่ยนเป็นยาที่ราคาแพงขึ้น ฉันจึงลังเล ในที่สุดฉันได้รู้จักโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวสแตมฟอร์ดผ่านการแนะนำของเพื่อนที่เอาชนะโรคมะเร็งเต้านมได้สำเร็จ หลังจากปรึกษาแพทย์อย่างละเอียดแล้ว ฉันจึงตัดสินใจลองไปรักษาที่ต่างประเทศดู

กลางเดือนเมษายน 2562 ฉันมาถึงที่นี่ ตั้งแต่ฉันป่วย ร่างกายก็โทรมลงมาก แค่เดินก็หอบแล้ว ไอต่อเนื่องไม่หยุด จนส่งผลให้น้ำหนักลงถึง 10 กิโลกรัม หลังการรักษา ระหว่างการตรวจติดตามผล ในเดือนกรกฎาคม 2562 พบว่าน้ำในปอดหายไปทั้งหมด ก้อนเนื้อขนาดใหญ่ 10 ซม. และรอยโรคที่ลามไปจุดอื่น ๆ ก็หายไปเกือบหมด! เมื่อฉันกลับบ้าน เพื่อนๆ ประหลาดใจกับการเปลี่ยนแปลงของฉันมากๆ

ผมชื่อหลี่หรงเซิง จากบาตัม ประเทศอินโดนีเซีย ปีนี้อายุ 50 ปี ในเดือนพฤศจิกายน 2566 เข้ารับการรักษาเนื่องจากเสียงแหบมา 2 เดือนกว่า ต่อมาได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งปอดที่โรงพยาบาลในสิงคโปร์

ผมมีประวัติเป็นโรคหัวใจอย่างรุนแรง ตอนที่เพิ่งตรวจเจอ ผมเครียดมาก สำหรับผมเป็นมะเร็งแปลว่าจะต้องตาย และผมก็ไม่อยากเจ็บปวดจากการรักษาแบบทั่วไปเลย ด้วยกำลังใจจากภรรยาผมจึงฮึกเหิมขึ้นมา ต่อมาผมได้ยินว่าญาติรักษามะเร็งที่โรงพยาบาลมะเร็งกว่างโจวสแตมฟอร์ดแล้วเอาชนะโรคมะเร็งได้สำเร็จ หลังจากปรึกษากับแพทย์ผมก็มาเข้ารับการรักษาอย่างเป็นทางการในเดือนธันวาคม 2566

หลังจากเข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาล ผลปรากฏว่า ผมเป็นมะเร็งปอดระยะที่ 4 ขนาดก้อนเนื้อประมาณ 1.7 ซม. และมีการแพร่กระจายไปยังต่อมน้ำเหลืองด้วย หลังจากการรักษาครั้งแรก ผมก็รู้สึกดีขึ้นมากจนพูดติดตลกกับหมอว่าผมคงออกจากโรงพยาบาลและกลับบ้านได้ในวันนั้นเลย หลังจากการรักษาหลายครั้ง เมื่อตรวจติดตามผลก็พบว่าก้อนเนื้อในปอดแทบจะหายไปแล้ว จุดที่แพร่กระจายไปยังต่อมน้ำเหลืองก็เล็กลงอย่างเห็นได้ชัด และค่าดัชนีชี้วัดต่างๆก็เริ่มดีขึ้น!