- 01 การรักษาแบบแผลเล็ก ไม่ทำร้ายเนื้อเยื่อปกติในร่างกาย การบาดเจ็บน้อยกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับการผ่าตัดแบบดั้งเดิม
- 02 ภายใต้การนำทางของเครื่อง DSA ปักหมุดและทำลายก้อนมะเร็งอย่างแม่นยำ เพิ่มความแม่นยำกับการรักษา
- 03 ช่วยลดความเสี่ยงจากอาการแซรกซ้อนหลังการรักษา (เช่น ติดเชื้อ เลือดออก)
- 04 ระยะเวลาการฟื้นฟูหลังการรักษาสั้น ความเจ็บน้อย ช่วยลดความดันและการบาดเจ็บต่อร่างกายได้ดี
- 05 สามารถบูรณาการการรักษาด้วยฉายแสง การเคมีบำบัด เพื่อเป็นแผนการรักษาที่เพิ่มประสิทธิภาพ
- 06 เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งปอด ตับ กระเพาะ ลำไส้และเต้านม รวมถึงการรักษาแบบประคับประคองของมะเร็งระยะสุดท้าย
VS
- วิธีการผ่าตัดแบบดั้งเดิม 1.การผ่าตัดมีความเสี่ยงสูง อาจก่อให้เกิดอาการแทรกซ้อน เช่น ลมชัก ทำลายระบบสมรรถภาพของร่างกาย เลือดออก ติดเชื้อ เส้นเลือดอุดตันได้ 2.บาดแผลใหญ่ ผู้ป่วยทรมาน 3.หลังผ่าตัดง่ายต่อการกลับมาเป็นซ้ำและแพร่กระจาย 4.ความยากการผ่าตัดสูง ไม่สามารถรักษาด้วยวิธีเดิมอีกต่อไปได้
- การฉายแสง 1.ในระหว่างการแผรังสีทำลายเซลล์มะเร็ง จะทำให้ผู้ป่วนมีอาการผลข้างเคียง เช่น คลื่นไส้ อาเจียน 2.ปริมาตรการแผ่รังสีในเฉพาะจุดต่ำ ประสิทธิภาพการรักษาไม่พึงประสงค์ กลับมาเป็นซ้ำง่าย
- การทำเคมีบำบัด 1.โดยรวมแล้ว จำนวนครั้งของการทำแคมีบำบัดของผู้ป่วยมะเร็ง ต้อลงทำ 8-24 ครั้ง ระบะเวลาการรักษายาวนาน 2.ประสิทธิภาพการรักษาต่ำ ผลข้างเคียงสูง เล่น คลื่นไส้ อาเจียน ผมร่วง เป็นต้น