“หากไม่เคยไปเยือนเชอเปย เท่ากับไม่เคยได้เห็นการแข่งเรือมังกรที่แท้จริง”

"แข่งเรือมังกร" ในช่วงเทศกาลเรือมังกรไม่เพียงแต่เป็นกิจกรรมพื้นบ้านแบบดั้งเดิมเท่านั้น แต่ยังเป็นพิธีสำคัญของ "เหล่ากวง" ในการเยี่ยมเยียนญาติและเพื่อนฝูงอีกด้วย แข่งเรือมังกรของหมู่บ้านเชอเปยมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 300 ปี และเป็นที่รู้จักในฐานะการแข่งเรือมังกรที่ใหญ่ที่สุดในกว่างโจว ปัจจุบันกลายเป็นตัวแทนมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ชุดที่ 8 ในมณฑลกวางตุ้ง

เพื่อให้ผู้ป่วยต่างชาติและครอบครัวได้สัมผัสบรรยากาศเทศกาลแข่งเรือมังกรที่แท้จริงในประเทศจีน และได้สัมผัสวัฒนธรรมเรือมังกรในเมืองกว่างโจวได้ดียิ่งขึ้น ในวันที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2567 (วันที่สามเดือน 5 จันทรคติ) ซึ่งเป็นวันเทศกาลแข่งเรือมังกรของเชอเปย โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวสแตมฟอร์ด ได้จัดกลุ่มผู้ป่วยจากอินโดนีเซีย มาเลเซีย เวียดนาม ไทย ฟิลิปปินส์ มองโกเลีย และอื่นๆ เข้าร่วมชมกิจกรรมทางวัฒนธรรมของเมืองกว่างโจว ได้เดินทางไปยังหมู่บ้านเชอเปยเพื่อชมกิจกรรมพื้นบ้านแข่งเรือมังกร เป็นเทศกาลเพื่อการเยี่ยมญาติและเพื่อนฝูงและได้สัมผัสวัฒนธรรมเรือมังกรที่มีอายุเก่าแก่นับศตวรรษของเมืองกว่างโจวอีกด้วย

เป็นที่เข้าใจกันว่าในเมืองกว่างโจว ในช่วงเทศกาลแข่งเรือมังกรจะมีกิจกรรมพื้นบ้านต่างๆ จัดขึ้นตามขนบธรรมเนียมอย่างครื้นเครงสนุกสนาน เช่น การเยี่ยมญาติ การแข่งเรือมังกร การรับประทานอาหารเรือมังกรและการร้องเพลงเรือมังกร ในวันนั้น ผู้ป่วยนานาประเทศจากโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวสแตมฟอร์ดได้เข้าร่วมเทศกาลแข่งเรือมังกรอย่างสนุกสนาน

เมื่อเวลา 09.00 น. กลุ่มสังเกตการณ์ได้มาถึงหมู่บ้านเชอเปย ในช่วงเวลาดังกล่าวได้มีการล่องเรือร้องเพลงตีกลอง แม้ว่าฝนจะตกเป็นครั้งคราว แต่ผู้ป่วยต่างชาติและครอบครัวของพวกเขายังคงเต็มไปด้วยความตื่นเต้น พวกเขาแวะที่ริมแม่น้ำและหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาบันทึกภาพการแข่งขันเรือมังกร

ในครั้งนี้ เรือมังกรมากกว่า 200 ลำได้ถูกลำเลียงมาจากเทียนเหอ หวงผู่ ผานหยู ไห่จู และสถานที่อื่น ๆ เข้ามาที่เชอเปย แม้ว่าจะเป็นกิจกรรม "เยี่ยมญาติ" ในช่วงเทศกาลแข่งเรือมังกร แต่เรือมังกรหลายร้อยลำก็ได้แข่งขันกันอย่างดุเดือด เรือมังกรของแต่ละหมู่บ้านจะจัดแสดง "อาวุธวิเศษ" ของตัวเอง เช่น ร่มปักสไตล์กวางตุ้งสีสันสดใส ธงหลากสีสันที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและการตกแต่งอย่างประณีต หัวและหางมังกร รวมถึงมีการจุดประทัดเพื่อเพิ่มความสนุกสนานอีกด้วย เรือมังกรหลากหลายชนิดลอยลำผ่านไปมาทำให้ผู้คนที่มาเยี่ยมชมไม่เบื่อหน่ายเลยแม้แต่น้อย

Li*shan ผู้ป่วยจากมาเลเซียกล่าวอย่างตื่นเต้น: “มันน่าตื่นเต้นและสวยงามมาก เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นเรือมังกรจำนวนมากมายขนาดนี้และเห็นชาวบ้านที่ดูสนุกสนานกับงาน ฉันรู้สึกชื่นชอบบรรยากาศการเฉลิมฉลองที่ครื้นเครงแบบนี้มาก เมื่อครู่มีชาวบ้านเอาขนมเรือมังกรมาให้ฉันชิมด้วย ฉันได้ยินมาว่าพวกเขาให้การต้อนรับพี่น้องที่มาจากหมู่บ้านอื่นด้วย ทำให้ฉันรู้สึกจริงใจอบอุ่นและสนิทสนมเป็นอย่างมาก การที่สามารถถ่ายทอดวัฒนธรรมอันยาวนานเช่นนี้ได้มันเป็นเรื่องที่สุดยอดมากๆ เมื่อเดือนมกราคมปีนี้ ฉันมาที่โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวสแตมฟอร์ดเพื่อรักษาเนื้องอกในดวงตา แต่ครั้งนี้ฉันมาตรงกับช่วงเทศกาลแข่งเรือมังกรพอดี ซึ่งมีการจัดกิจกรรมให้กับผู้ป่วยด้วย เมื่อวานฉันได้เข้าร่วมการแข่งขันห่อบ๊ะจ่าง และวันนี้ฉันจะออกไปดูเรือมังกร ฉันมีความสุขมาก มันทำให้ชีวิตในช่วงทำการรักษาของฉันไม่น่าเบื่ออีกต่อไป ฉันขอขอบคุณโรงพยาบาลมากจริงๆ ”

ในครั้งนี้ ผู้อำนวยการฝ่ายบริการลูกค้าของโรงพยาบาล โจวเสี่ยวผิง ซึ่งเป็นผู้นำทีมในครั้งนี้ กล่าวว่า “โรงพยาบาลของเราให้ความสำคัญกับสุขภาพกายและสุขภาพใจของผู้ป่วยมาโดยตลอด นับตั้งแต่ก่อตั้งในปี 2005 โรงพยาบาลได้ดำเนินการจัดกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยในโรงพยาบาลเพื่อช่วยให้ผู้ป่วยมีจิตใจที่แจ่มใสและฟื้นตัวได้ดีขึ้น ขณะเดียวกัน นอกเหนือจากการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และกิจกรรมทางวัฒนธรรมแล้ว โรงพยาบาลของเรายังให้บริการเพิ่มเติมกว่า 60 รายการ ซึ่งได้รับการตอบรับและยอมรับอย่างดีจากผู้ป่วยนานาชาติ และในอนาคต โรงพยาบาลจะยังคงพัฒนาการบริการและปรับปรุงคุณภาพการบริการอย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกันก็เพิ่มกิจกรรมทางวัฒนธรรมให้กับผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง เราจะส่งเสริมวัฒนธรรมจีนดั้งเดิมและให้ผู้ป่วยต่างชาติเข้าใจถึงความลึกซึ้งของวัฒนธรรมจีนมากขึ้น”

ในฐานะโรงพยาบาลนานาชาติ โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวสแตมฟอร์ดยึดมั่นในแนวคิด “เน้นผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง” โดยการมอบเทคโนโลยีทางการแพทย์ขั้นสูงและในขณะเดียวกันก็ให้บริการคุณภาพสูงแก่พวกเขาด้วย! ทางโรงพยาบาลหวังว่าการจัดกิจกรรมเพิ่มเติมต่างๆ เช่น กิจกรรมทางวัฒนธรรมเทศกาลเรือมังกรและการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ให้ผู้ป่วยที่มาโรงพยาบาลเพื่อผู้ป่วยที่มาเข้ารับการรักษาไม่เพียงแต่จะได้รับการรักษาที่ดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังได้รับความสุขทางร่างกายและจิตใจอีกด้วย สิ่งนี้จะเป็นส่วนที่ช่วยส่งเสริมให้ผู้ป่วยทุกคนฟื้นตัวได้ดีทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ