การฝังแร่อนุภาคสามมิติ
อะไรที่เรียกว่าเทคนิคการฝังแร่แบบมีแม่พิมพ์ 3มิติ?
เทคนิคการฝังแร่แบบมีแม่พิมพ์ 3 มิติจะขึ้นอยู่กับข้อกำหนดปริมาณรังสีบำบัดของเนื้องอกต่างๆ และจะมีการการจำลองภาพ3มิติก่อนการผ่าตัดเพื่อกำหนดแผนการฝังแร่อนุภาค แผนดังกล่าวใช้การพิมพ์ภาพแบบ3มิติเพื่อสร้างแผนการนำทางเฉพาะบุคคล แบบจำลองการฝั่งแร่อนุภาคไอโอดีน125 เข้าไปในบริเวณเนื้องอก และตรวจสอบตำแหน่งความลึกของเข็มที่ทำการเจาะเข้าไปและการกระจายตัวของอนุภาค การแก้ปัญหา "จุดบอด" ของการใช้เข็มเจาะผ่านบนชั้นผิวหนังของการฝังแร่อนุภาคด้วยมือเปล่าภายใต้คำแนะนำของเครื่องCT SCANแบบดั้งเดิม
>>ถ้าเกิดว่าคุณอยากทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโรคมะเร็ง คลิกเพื่อปรึกษาแพทย์
รูปภาพการกำหนดเส้นทางและการวางแผนของการฝังแร่
ผู้ป่วยมะเร็งชนิดไหนที่เหมาะสมกับการฝังแร่แบบมีแม่พิมพ์ 3 มิติ
เทคนิคการฝังแร่แบบมีแม่พิมพ์3มิติ เหมาะสมกับการรักษามะเร็งชนิดก้อนแข็งที่มีการลุกลามไปยัง ต่อมลูกหมาก, ปากมดลูก, เต้านม,ตับ, ปอด รวมถึงมะเร็งก้อนแข็งที่รักษายาก,ลุกลามไปยังหลังเนื้อเยื่อช่องท้อง,อุ้งเชิงกรานและกระดูกสันหลัง
เทคนิคการฝังแร่แบบมีแม่พิมพ์3มิติ เหมาะสมกับการรักษามะเร็งชนิดก้อนแข็งที่มีการลุกลามไปยัง ต่อมลูกหมาก, ปากมดลูก, เต้านม, ตับ, ปอด รวมถึงมะเร็งก้อนแข็งที่รักษายาก, ลุกลามไปยังหลังเนื้อเยื่อช่องท้อง, อุ้งเชิงกรานและกระดูกสันหลัง
ข้อดีของเทคนิคการฝังแร่แบบมีแม่พิมพ์ 3 มิติเมื่อเทียบกับวิธีดั้งเดิม?
ผู้อำนวยการ ไป๋ ไห่ซาน แผนกเนื้องอกวิทยา โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวสแตมฟอร์ด ชี้ให้เห็นว่า การฝังแร่ไอโอดีน 125 เพื่อรักษาเนื้องอกเป็นเทคโนโลยีที่มีข้อกำหนดในเรื่องของปริมาณรังสี โดยที่ปริมาณยากับประสิทธิภาพมีความเกี่ยวเนื่องกัน ดังนั้นการดำเนินการวางแผนก่อนการผ่าตัดจึงเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จในการผ่าตัด เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับปริมาณยาที่เหมาะสมและตรงจุด ในระหว่างกระบวนการรักษา ทางโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวสแตมฟอร์ดจึงได้มีการนำเทคโนโลยีการฝังแร่แบบ 3 มิติมาใช้โดยมีข้อได้เปรียบเมื่อเทียบกับการฝังแร่แบบดั้งเดิมถึง 6 ข้อ
1. มีความยืดหยุ่น – ขณะทำการสอดเข็มสามารถหลีกเลี่ยงอวัยวะสำคัญต่างๆ ได้ เช่น เส้นเลือด ลำไส้ กระดูก เป็นต้น
2. ป้องกันความเย็น - เนื่องจากตำแหน่งและมุมการสอดเข็มมีความยืดหยุ่นมากกว่า จึงสามารถป้องกันความเย็นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3. ใช้เวลาไม่นาน – มีแม่พิมพ์รองรับ ทำง่าย ประหยัดเวลา
4. สามารถเจาะลงบนแม่พิมพ์ได้อย่างแม่นยำ
5. ช่วยลดความเสี่ยง – ถ้ามีการแทงเข็มเข้าหลายๆ ที่ในเวลาเดียวกันจะมีความแม่นยำมากขึ้น ช่วยลดความเสี่ยงในการผ่าตัด ไม่ต้องทำการตรวจCT SCANหลายๆ ครั้งเพื่อลดการสัมผัสรังสีของผู้ป่วย
6.ในทางวิทยาศาสตร์ – ตำแหน่งของแร่อนุภาคสอดคล้องกับแผนก่อนการผ่าตัด ก่อนและหลังผ่าตัดมีปริมาณยาที่เท่ากัน
>>ถ้าเกิดว่าคุณอยากทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโรคมะเร็ง โทร0610367888 หรือ 0907099666 เพื่อปรึกษาแพทย์
การแทงเข็มในระหว่างผ่าตัด
เทคนิคการฝังแร่แบบมีแม่พิมพ์3 มิติมีวิธีการทำอย่างไร?
1. ก่อนการผ่าตัดวันแรก ผู้ป่วยต้องมีการทำCT SCAN ก่อน หลังจากออกแบบแผนการลงเข็มแล้วจะคำนวณจำนวนอนุภาคที่เข็มแต่ละอันที่ฝังไว้ตามปริมาณที่กำหนด หลังจากนั้นพิมพ์แม่พิมพ์ 3 มิติออกมา เพื่อกำหนดตำแหน่งที่จะทำการเจาะได้อย่างแม่นยำ
2. ในขณะผ่าตัด ตามแผนก่อนการผ่าตัด แพทย์จะทำการแก้ไขแม่แบบก่อนที่จะมีการพิมพ์ออกมาด้วยเครื่องพิมพ์ 3 มิติที่ผ่านการฆ่าเชื้อแล้ว
3. หลังจากมีการทำ CT SCAN เพื่อยืนยันตำแหน่งของแม่พิมพ์อย่างถูกต้อง แพทย์จะเจาะเข็มลงบนแม่พิมพ์
4. นำเม็ดอนุภาคใส่ไว้ตรงปลายเข็ม คำนวณปริมาณยาที่จะใช้ นำเม็ดอนุภาคที่จะใช้ตามแผนที่คำนวณไว้ใส่เข้าไปยังบริเวณก้อนมะเร็งในตัวผู้ป่วย
5.หลังจากการผ่าตัดจะมีการตรวจสอบปริมาณยาทันที
ควรจะเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ก่อนและหลังการผ่าตัดโดยใช้เทคนิคการฝังแร่แบบมีแม่พิมพ์ 3 มิติ? คลิกเพื่อรับคำปรึกษาออนไลน์
>>ถ้าเกิดว่าคุณอยากทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโรคมะเร็ง คลิกเพื่อปรึกษาแพทย์
การกระจายตัวของการฝังแร่อนุภาคหลังการผ่าตัด
เพราะเหตุใดจึงแนะนำการฝังแร่อนุภาคแบบมีแม่พิมพ์ 3 มิติ?
การรักษาด้วยรังสีเป็นส่วนที่ขาดไม่ได้ในการรักษาเนื้องอกที่เป็นก้อน การรักษารังสีแบบธรรมดาหมายถึง "รังสีจากภายนอก" และรังสีจะต้องผ่านเนื้อเยื่อปกติ การฉายรังสีผู้ป่วยในปริมาณมากซ้ำๆ จะทำให้เกิดความเสียหายร้ายแรงต่อเนื้อเยื่อของร่างกายและมีผลข้างเคียงอย่างมาก
เมื่อเปรียบเทียบกับการรักษาด้วยวิธีแบบดั้งเดิม การฝังเม็ดแร่กัมมันตภาพรังสีไอโอดีน125 เป็นเทคโนโลยีการรักษาเนื้องอกที่เกิดขึ้นใหม่ ซึ่งสามารถเรียกว่า "การฉายรังสีภายใน" โดยสามารถระบุตำแหน่งของเนื้องอกได้อย่างแม่นยำผ่าน CT SCANหรืออัลตราซาวนด์ จากนั้นใช้เข็มเจาะเข้าไปฝังแร่อนุภาคเข้าไปในเนื้องอก เพื่อให้เนื้องอกค่อยๆ หดตัวหรือหายไป
อย่างไรก็ตาม การฝังเม็ดแร่กัมมันตภาพรังสีไอโอดีนยังมีปัญหา เช่น การกระจายตัวของอนุภาคแร่เป็นเรื่องยาก, มีวิธีการทำที่ซับซ้อน, เทคโนโลยีการฝังแร่แบบมีแม่พิมพ์ 3 มิติทำลายข้อบงพร่องของวิธีแบบเดิมๆ ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยลดระยะเวลาการผ่าตัดและลดการบาดเจ็บของผู้ป่วยเท่านั้น แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือการควบคุมปริมาณยาอย่างแม่นยำ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วย
สถานะทางการแพทย์เทคนิคการฝังแร่แบบมีแม่พิมพ์ 3 มิติ?
มีความแม่นยำตรงจุด สามารถปรับแต่งแม่พิมพ์เฉพาะบุคคล ปัจจุบันนี้ผ่านการรับรองมาตรฐาน FDA และCFDA และเป็นแม่พิมพ์ 3 มิติที่สามารถออกแบบเองได้