หากตรวจพบมะเร็งปากมดลูก จำเป็นต้องผ่าตัดหรือไม่?
- 0
- 2023-12-08
การรักษามะเร็งปากมดลูกไม่จำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดแบบดั้งเดิม การฉายรังสี และเคมีบำบัดอีกต่อไป
การรักษามะเร็งปากมดลูกแบบดั้งเดิมมักต้องได้รับการผ่าตัดเอามดลูกออก ในขณะเดียวกันการคีโมทั่วทั้งร่างกาย ไม่เพียงแต่จะส่งผลกระทบต่อความสามารถในการตั้งครรภ์ของของสตรีในวัยเจริญพันธุ์ แต่ยังได้ทำลายเนื้อเยื่อปกติ ทำให้เนื้อเยื่อเกิดความเสียหาย แม้ว่าจะประสบความสำเร็จในการต่อสู้กับโรคมะเร็ง แต่ก็ส่งผลกระทบต่อร่างกายในระยะยาว สำหรับคนไข้ที่โชคร้ายที่เป็นมะเร็งปากมดลูก นอกเหนือจากการผ่าตัดแบบดั้งเดิม การฉายรังสี และเคมีบำบัดแล้ว ยังมีวิธีการที่ดีกว่านี้ไหม?
ด้วยการพัฒนาอย่างรวดเร็วของการแพทย์สมัยใหม่ จึงเป็นข่าวดีสำหรับผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูก หลังจากผู้ป่วยได้รับการวินิจฉัยแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องเลือกการรักษาแบบเดิมๆ อีก อาทิ การฉายรังสี เคมีบำบัด และการผ่าตัด หากใช้การรักษาแบบบาดแผลเล็กแทนการรักษาแบบดั้งเดิม ตัวอย่างเช่น การรักษาด้วยคีโมเฉพาะจุด, การฝั่งแร่, มีดนาโม, มีดคังโปและวิธีอื่นๆ
ไม่รู้วิธีการรักษาที่เหมาะกับคุณใช่หรือไม่? เพียงกดส่งข้อมูลเพื่อปรึกษาทางออนไลน์ ก็จะได้รับคำแนะนำในการรักษาจากผู้เชี่ยวชาญ
เทคโนโลยีเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้ผู้ป่วยต่อสู้กับโรคมะเร็งได้สำเร็จเท่านั้นขณะเดียวกันก็สามารถลดผลกระทบต่างๆ ที่ตามมาได้ สามารถรักษาสิ่งสำคัญที่สุดของสตรีในวัยเจริญพันธุ์ อีกทั้งยังสามารถยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยได้
ระยะของมะเร็งปากมดลูก
สมาพันธ์นรีเวชวิทยาและสูติศาสตร์ระหว่างประเทศ (International Federation of Gynecology and Obstetrics, FIGO) ได้มีการแบ่งระยะของมะเร็งปากมดลูกไว้ดังนี้
(แผนการรักษาในแต่ละระยะของมะเร็งปากมดลูกที่แสดง เป็นเพียงเพื่อประกอบการพิจารณาเท่านั้น ไม่สามารถนำมายึดถือเป็นพื้นฐานในการรักษาส่วนบุคคลได้)
มะเร็งปากมดลูกระยะที่ 0 : มะเร็งที่จุดกำเนิด เชื้อมะเร็งจะอยู่แค่บริเวณผิวของปากมดลูกยังไม่มีการลุกลามไปในส่วนอื่นๆ
มะเร็งปากมดลูกระยะที่ 1 : เป็นระยะที่เซลล์มะเร็งยังอยู่ในเฉพาะบริเวณปากมดลูกเท่านั้น (ไม่พิจารณาว่ามีการลุกลามที่ปากมดลูกหรือไม่)
มะเร็งปากมดลูกระยะที่ 2 : เป็นระยะที่มะเร็งลุกลามออกจากปากมดลูก แต่ยังไม่ถึงผนังอุ้งเชิงกรานหรือช่องคลอดส่วนล่าง ซึ่งจะอยู่ที่ 1/3
มะเร็งปากมดลูกระยะที่ 3 : เป็นระยะที่มะเร็งลุกลามออกจากปากมดลูกไปบริเวณบริเวณอุ้งเชิงกรานหรือช่องคลอดส่วนบน 1/3 และอาจเกิดภาวะไตเสื่อมมีน้ำคั่งหรือการทำงานของไตที่ผิดปกติได้
มะเร็งปากมดลูกระยะที่ 4 : เป็นระยะที่มะเร็งลุกลามไปยังอวัยวะข้างเคียง (กระเพาะปัสสาวะ ลำไส้ใหญ่) หรือหรือมะเร็งกระจายไปยังอวัยวะอื่น ๆที่เลยกระดูกเชิงกรานไป
การกลับมาเป็นซ้ำของมะเร็งปากมดลูก : พบได้หลังจากทำการรักษาผ่านไปแล้ว ส่วนใหญ่พบมากในมะเร็งปากมดลูกระยะสุดท้าย (ร่วมไปถึงระยะสุดท้ายของมะเร็งเฉพาะจุด)
ข้อดีของการรักษามะเร็งปากมดลูกแบบบาดแผลเล็ก
1. เทคโนโลยีบาดแผลเล็ก: ปากแผลเพียง 2-3 มม. ผลข้างเคียงน้อย และความเจ็บปวดน้อย
2. การคีโมเฉพาะจุด: ปากแผลเพียง 1-2 มิลลิเมตร ยาต้านมะเร็งจะมุ่งตรงไปยังเนื้องอก ความเข้มข้นของยาจะสูงกว่าการให้คีโมแบบทั่วไป 2-8 เท่า มีผลข้างเคียงน้อยและสามารถฆ่าเซลล์มะเร็งได้อย่างแม่นยำ
3. ความเย็นบำบัด: บาดแผลเล็ก กำจัดเนื้องอกได้ตรงจุด กระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย ลดความเสียหายของเนื้อเยื่อปกติ และสามารถป้องกันการกลับเป็นซ้ำของมะเร็งได้
4. การฝังแร่: บาดแผลเล็กระดับไมโครมิลลิเมตร แร่จะแผ่รังสีอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอภายในเนื้องอกเป็นเวลา 180 วัน สามารถทำลายเนื้องอกได้อย่างแม่นยำ ภาวะแทรกซ้อนน้อย
5. การรักษาด้วยไมโครเวฟ: แผลเล็กเท่ารูเข็ม 3 มม. ปล่อยความร้อนได้สูง เวลาการรักษาสั้น สามารถทำลายเนื้องอกที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 6 ซม. ได้ภายใน 10 นาที มีความปลอดภัยสูง ไม่มีผลข้างเคียง อัตราการกลับมาเป็นซ้ำต่ำ ใช้รักษามะเร็งได้หลายชนิด
6. การแพทย์แผนจีนผสมผสานกับตะวันตก: สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการรักษา ลดผลข้างเคียง ลดภาวะแทรกซ้อน ฟื้นตัวได้เร็ว ยืดอายุให้ยาวนานขึ้น และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
7.มีดคังโป:เป็นการใช้เข็มขนาดเล็ก (ประมาณ 2 มม.)สอดผ่านผิวหนังเข้าไปในก้อนมะเร็ง โดยอาศัยเครื่องCTหรือB-อัลตราซาวนด์เป็นตัวนำทาง เข็มจะปล่อยความเย็น (อุณหภูมิต่ำสุด -196° C)และปล่อยความร้อน(อุณหภูมิสูงสุด 80°C)ไปยังก้อนมะเร็ง เป็นการทำลายเซลล์มะเร็งโดยการสลับอุณหภูมิ
8.ไมโครสเฟียร์:การคีโมเฉพาะจุดเป็นเทคนิคการรักษามะเร็งแบบบาดแผลเล็ก โดยอาศัยไมโครสเฟียร์ที่มีลักษณะเป็นทรงกลมเล็กๆ ทำจากวัสดุโพลิเมอร์หรือเซรามิก ภายในจะบรรจุยาต้านมะเร็ง เป็นเทคนิคการรักษาที่ทันสมัยที่สุดในการรักษาระดับนานาชาติ