ฉันชื่อ ซู ฉีเสียงตัว เมืองซูราบายา อินโดนีเซีย วันนี้อยากจะเล่าเรื่อง "คอที่บวมใหญ่" ของฉันที่เล็กลงแล้ว
ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2555 มีก้อนเนื้อขนาดเท่าผลพุทราปรากฏที่คอของฉัน แต่ไม่มีอาการปวดใดๆ ถึงแม้ว่าในตอนเที่ยงของทุกๆวันฉันจะตัวร้อน แต่อาการแบบนี้เป็นอยู่ได้ไม่นานก็ค่อยๆดีขึ้น ฉันจึงไม่ได้ใส่ใจกับมันมากนัก จนกระทั่งก้อนเนื้อโตเท่าบอลลูนที่พองตัว ฉันจึงไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลในเดือนกรกฏาคม และในที่สุดก็ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิด Hodgkin
>>หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมะเร็ง กรุณาคลิกเพื่อปรึกษาแพทย์
ฉันกลัวผลข้างเคียงจากการให้คีโม จึงปฏิเสธคำแนะนำของแพทย์ในเรื่องการให้คีโม ฉันเริ่มกินยาสมุนไพรเพื่อบรรเทาอาการ แต่ว่าสิ่งต่าง ๆ ไม่เป็นไปตามที่ฉันคิดไว้ ก้อนเนื้อไม่เล็กลง แต่มันกลับใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็วแทบจะใหญ่กว่าศีรษะของฉันด้วยซ้ำ ใหญ่จนขยับไม่ได้ ในช่วงเวลานั้นฉันใช้ชีวิตได้อย่างยากลำบากมากฉันและครอบครัวมองหาวิธีการรักษาที่ดีกว่า หาไปหามาฉันก็ได้เจอกับโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวที่มีวิธีการรักษาแบบบาดแผลเล็ก ฉันเจอเว็บไซต์ของโรงพยาบาลบนอินเตอร์เน็ต หลังจากอ่านข้อมูลจึงพบว่าเมื่อเปรียบเทียบกับการฉายแสงและคีโมแบบดั้งเดิม เทคโนโลยีแบบบาดแผลเล็กจะบาดเจ็บน้อยกว่า ผลข้างเคียงน้อยกว่า และเห็นผลไวกว่า สิ่งนี้ทำให้ฉันดีใจมาก
หลังจากพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว ฉันจึงมาที่โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจว ฉันจำได้ว่าช่วงนั้นเป็นเดือนมิถุนายน ปี 2556 หลังจากการตรวจร่างกายพบว่าคอด้านซ้ายและด้านหน้ามีขนาดใหญ่ 25*15 เซนติเมตร เข้าสู่ระยะที่ 4 ของมะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิด Hodgkin ต่อมาภายหลังทีมแพทย์ของทางโรงพยาบาลได้ทำการตรวจร่างกายและประเมินสภาพร่างกายของฉัน แพทย์ได้วางแผนการรักษาโดยการให้คีโมเฉพาะจุดแก่ฉัน แพทย์ได้อธิบายให้ฉันฟังว่า การให้คีโมเฉพาะจุดจะเปิดแผลเพียง 1-2 มม.เท่านั้น จากนั้นสอดท่อชนิดพิเศษเข้าไปยังบริเวณเนื้องอก หลังจากนั้นใส่ยาเข้าไปยังเนื้องอกทางหลอดเลือดแดง
>>หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมะเร็ง กรุณาโทรเบอร์ 0610367888 0907099666 เพื่อปรึกษาแพทย์
แม้ว่าก่อนเข้ารับการรักษาฉันจะรู้สึกกังวลและร้อนใจ แต่ในขณะที่ทำการรักษา ฉันพบว่ามันไม่น่ากลัวอย่างที่คิดไว้ ขณะที่ดำเนินการรักษา คอที่ "บวม" ของฉันก็ค่อยๆ "เล็กลง" ในที่สุด และเนื้องอกที่คอของฉันก็หายไปอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ฉันแทบจะดูเหมือนคนปกติ เมื่อเปรียบเทียบก่อนและหลังการรักษา ฉันก็อดไม่ได้ที่จะทอดถอนใจ เทคโนโลยีแบบบาดแผลเล็กน่าทึ่งจริงๆ! ในที่สุดหินก้อนใหญ่ที่อยู่ในใจฉันก็ถูกยกออกไป
พูดมาถึงตอนนี้แล้ว ฉันอยากจะแบ่งปันประสบการณ์ของฉัน ผลข้างเคียงจากการให้คีโมเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าขึ้นอยู่กับร่างกายของแต่ละบุคคล แต่ฉันก็ยังไม่อยากที่จะเสี่ยงอยู่ดี ในทางกลับกันตลอดกระบวนการรักษาที่โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจว ฉันไม่มีอาการผิดปกติที่ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการกินหรือการนอนก็ตาม ในขณะที่ดำเนินการรักษาไปอาการของฉันดีขึ้นทุกวัน คอที่ใหญ่ของฉันเล็กลง และอาการต่างๆก็ค่อยๆดีขึ้น ทุกวันนี้ หลายปีผ่านไปแล้วอาการของฉันก็คงที่เช่นเคย การใช้ชีวิต การทำงานได้กลับสู่ภาวะปกติแล้ว ในเวลาว่างฉันยังวาดภาพอีกด้วย ได้ผ่อนคลายทั้งกายและใจ ฉันจึงอยากบอกทุกคนว่าเมื่อต้องเผชิญกับโรคมะเร็งไม่ต้องกังวล สิ่งสำคัญที่สุดคือการเลือกวิธีการรักษาให้เหมาะสมกับตัวเอง ทุกคนสู้ๆๆ!!!