มะเร็งกลายเป็นพิธีต้อนรับเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ของเด็กหนุ่มวัย 18
“ในปี 2559 ผมเริ่มรู้สึกปวดขาระหว่างวิ่งออกกำลังกาย และจากนั้นก็ลามไปที่เอว ผมจึงไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลท้องที่ในประเทศอินโดนีเซีย และในที่สุดก็ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็ง” ขณะที่ไมเฟยถูกกล้องจับภาพ เขาดูเขินอายเล็กน้อย แต่เขาก็นึกถึงประวัติการเจ็บป่วยของเขาอย่างใจเย็น
สำหรับไมเฟย ปี 2559 ถือเป็นปีที่สำคัญในชีวิตของเขา ปีนี้เขาได้เคาะประตูแห่งความเป็นผู้ใหญ่ เป็นปีที่เต็มไปด้วยพลังและความหวัง อย่างไรก็ตาม โชคชะตาดูเหมือนจะเล่นตลกกับเขา ความเจ็บปวดของเขาได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งในที่สุด และเขาเริ่มต้นการเดินทางอันยาวนานในการแสวงหาหนทางการรักษา โรงพยาบาลท้องที่ในอินโดนีเซียได้วางแผนการรักษาด้วยการฉายแสงและเคมีบำบัด ด้วยความที่เขายังเด็กและผลข้างเคียงที่รุนแรง ไมเฟยและครอบครัวจึงปฏิเสธทันทีและเลือกทานยาสมุนไพรเอง พวกเขาอยู่จนถึงปี 2561 เนื่องจากรู้สึกเจ็บปวดจนทนไม่ไหวจึงเข้าตรวจที่โรงพยาบาลแล้วพบว่าเนื้องอกต่อมน้ำเหลืองได้ลามไปทั่วร่างกาย การแสวงหาการรักษาที่มีประสิทธิภาพจึงกลายเป็นปัญหาเร่งด่วนที่ไมเฟยและครอบครัวต้องจัดการ เมื่อถามว่าทำไมเขาถึงเลือกโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวสแตมฟอร์ด ไมเฟยบอกว่าบางทีนี่อาจเป็นโชคชะตา เขาบังเอิญไปเจอขณะเสิร์ชอินเทอร์เน็ตและถูกเทคโนโลยีบาดแผลเล็กของโรงพยาบาลของเราดึงดูด ร่างกายของเขาอ่อนแอเต็มทน ต้องทานยาแก้ปวดทุกวัน โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวสแแตมฟอร์ดจึงเป็นแสงสว่างในสถานการณ์ที่สิ้นหวังนี้ การแพร่กระจายอย่างรวดเร็วของมะเร็งทำให้พวกเขาไม่มีเวลาให้คิดมากนัก ในตอนแรกพวกเขาก็ไม่กล้าคาดหวังมากเกินไป รักษาไปก่อนถึงจะมีความหวัง ผลการรักษาพิสูจน์ให้เห็นว่าการเลือกโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวสแตมฟอร์ด คือการตัดสินใจที่ถูกต้อง
>>หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมะเร็ง กรุณาคลิกเพื่อปรึกษาแพทย์
ไมเฟย
การรักษาแบบบาดแผลเล็ก ช่วยให้วัยรุ่นที่เป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองกลับมาใช้ชีวิตปกติได้
ในเดือนกรกฎาคม 2561 ไมเฟยมาที่โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวสแตมฟอร์ดเป็นครั้งแรก ทีมแพทย์ MDT ของโรงพยาบาลของเราได้วางแผนการรักษาตามอาการของเขา จนถึงเดือนกรกฎาคม 2566 ไมเฟย มาโรงพยาบาลของเราอีกครั้งเพื่อติดตามผล หลังจากคีโมเฉพาะจุด 8 ครั้ง + เคมีบำบัดทางหลอดเลือดดำ 8 ครั้ง + ฝังแร่ 3 ครั้ง เขาได้รับการควบคุมมะเร็งอย่างมีประสิทธิภาพและอาการของเขาก็บรรเทาลงมาก ผลการวินิจฉัยพบว่าเซลล์มะเร็งกว่า 90% หายไป รอยโรคที่กระจายไปทั่วร่างกายหายไป ไมเฟยเองก็ประหลาดใจที่ความเจ็บปวดทั่วร่างกายของเขาบรรเทาลงมาก ก่อนหน้านี้เขาต้องพึ่งยาแก้ปวดทุกวัน ตอนนี้ถึงแม้จะไม่กินยาแก้ปวดก็สามารถเรียนและใช้ชีวิตได้ตามปกติ เจ้าหน้าที่พยาบาลยังชื่นชมผลการรักษาของไมเฟยว่าเห็นได้ชัด ยามเขาเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลมีน้ำในช่องท้องอย่างรุนแรงจนตัวบวมและหายใจลำบาก แต่ตอนนี้เขากลับมาเป็นปกติและมีชีวิตชีวามาก
ไมเฟยและนักแปล
เมื่อถามความรู้สึกของเขาต่อเทคโนโลยีทางการแพทย์ของโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวสแตมฟอร์ด ไมเฟยกล่าวว่าเทคโนโลยีแบบบาดแผลเล็กของโรงพยาบาลทำให้เขาสามารถหลีกเลี่ยงอันตรายจากการผ่าตัดและเคมีบำบัดแบบดั้งเดิม หลังการรักษาเสร็จสามารถฟื้นฟูร่างกายได้รวดเร็ว ยิ่งไปกว่านั้นเขายังประทับใจในรูปแบบการวินิจฉัยและการรักษา โรงพยาบาลของเราชี้ให้เห็นว่าการออกใบตรวจและกำหนดแผนการรักษาของแพทย์ต่างกับโรงพยาบาลในอินโดนีเซีย ต้องลงทะเบียนใหม่และรอดูรายงานซึ่งนอกจากจะใช้เวลานานจนทำให้อาการของผู้ป่วยทรุดลงอีกด้วย แล้วยังส่งผลให้แพทย์เข้าใจอาการของผู้ป่วยได้ไม่ครบถ้วน คนไข้ต้องทำการตรวจซ้ำ ๆ อย่างไรก็ตาม ในรูปแบบการวินิจฉัยและการรักษาของโรงพยาบาลเรานั้น ผู้ป่วย 1 ราย รับผิดชอบโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ 1 ท่าน หลังจากผลการตรวจออกมา ผู้เชี่ยวชาญจะแจ้งให้ผู้ป่วยทราบโดยเร็วที่สุดและให้การรักษาที่ตรงเป้าหมาย วิธีการรักษาจะปรับตามสภาพร่างกายปัจจุบันของผู้ป่วย รูปแบบการวินิจฉัยและการรักษานี้เป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วยมาก และยังเป็นเหตุผลสำคัญว่าทำไมเขาถึงได้รับผลการรักษาที่ดีในโรงพยาบาลของเรา
>>หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมะเร็ง กรุณาโทรเบอร์ 0610367888 0907099666 เพื่อปรึกษาแพทย์
การสำเร็จการศึกษาพร้อมกับการต่อสู้กับโรคมะเร็งได้สำเร็จ
“ผมเขียนวิทยานิพนธ์สำเร็จการศึกษาเสร็จแล้ว และผมจะออกจากโรงพยาบาลเร็ว ๆ นี้” ไมเฟยเอ่ยด้วยดวงตาที่เป็นประกาย การสำเร็จการศึกษาระดับวิทยาลัยของชายหนุ่มวัย 18 ปีคนนั้นคือการเข้าสู่ฐานะผู้ใหญ่แล้ว โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวสแตมฟอร์ดได้เห็นชายหนุ่มก้าวสู่ความเป็นผู้ใหญ่ และยังได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของการเจ็บป่วยของเขา ตั้งแต่การเจ็บปวดทรมานไปจนถึงการฟื้นตัว ชีวิตของเขาเพิ่งเริ่มต้นราวกับพระอาทิตย์ขึ้น
ในที่สุด ไมเฟยก็แสดงความขอบคุณอย่างสุดซึ้งต่อเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ของโรงพยาบาล ขอบคุณแพทย์ที่ช่วยให้อาการเขาค่อยๆ ดีขึ้น ขอบคุณเจ้าหน้าที่พยาบาลที่ดูแลอย่างใกล้ชิด ขอบคุณล่ามที่ทำให้เขารู้สึกสบายใจ และขอบคุณโชคชะตาที่นำพาเขาให้มาเจอโรงพยาบาลนี้ เขาอยากจะบอกผู้ป่วยมะเร็งคนอื่นๆ ว่าพวกเขาต้องคิดบวกและมองโลกในแง่ดี โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวสแตมฟอร์ด สามารถช่วยเขาและผู้ป่วยอีกมากมายต่อสู้กับมะเร็งได้
ไมเฟยและครอบครัวของเขาถ่ายรูปร่วมกับเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์