"ผู้ป่วยโรคมะเร็งที่สิ้นหวังจำนวนมากถูกปฏิเสธการรักษาจากรพ.ในท้องที่ แต่คุณจะเห็นความหวังที่นี่ โรงพยาบาลเรามุ่งเน้นเทคโนโลยีการรักษาแบบบาดแผลเล็ก และยึดผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง อย่าเสียเวลาไปกับการลังเลใจจนเกินไป คุณต้องรับการรักษาอย่างทันท่วงที คุณมีทางเลือกอีกหลายวิธี!" นี่คือคำอ้อนวอนจากก้นบึ้งของหัวใจเราต่อผู้ป่วยโรคมะเร็ง
หลังจากคีโมและฉายแสง น้ำหนักลงไป 20 กก.
แต่ไม่สามารถหยุดยั้งการกลับมาเป็นมะเร็งซ้ำได้
ฉันชื่ออลิซาเบธ ฉันอายุ 44 ปี มาจากเนเธอร์แลนด์แคริบเบียน ในเดือนเมษายน ปี 2565 ฉันบังเอิญคลำเจอก้อนที่เต้านมซ้ายและมีอาการเจ็บปวดมากขึ้นเรื่อยๆ ฉันได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งเต้านมแบบ Triple Negative ในเต้านมซ้ายที่โรงพยาบาลในเนเธอแลนด์ ฉันได้รับคีโมที่นั่นอยู่หลายครั้ง แต่เห็นผลไม่ชัดเจนเท่าไรนัก
ในโรงพยาบาลที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ การรักษามะเร็งมีเพียงวิธีแบบดั้งเดิมเท่านั้น เช่น การให้เคมีบำบัดทางหลอดเลือดดำ การผ่าตัด และการฉายรังสี ฉันได้เข้ารับการผ่าตัดมะเร็งเต้านมและเคมีบำบัดตามคำแนะนำของแพทย์ ทรมานกับผลข้างเคียงของรังสีรักษาและเคมีบำบัดมาปีกว่า จนกินอาหารไม่ได้ น้ำหนักลดลงไป 20 กว่ากิโลกรัม รูปร่างหน้าตาของฉันก็เปลี่ยนไปอย่างมาก หมอบอกว่าก้อนเนื้อได้หายไปแล้ว และฉันก็ดีใจมาก
อย่างไรก็ตาม ในเดือนกันยายน 2566 จู่ๆ ที่แผลผ่าตัดเต้านมด้านซ้ายของฉันก็มีซีสต์งอกออกมา และรู้สึกปวดเวลากดลงไป ผลการตรวจ PET-CT พบว่ากลับมาเป็นมะเร็งซ้ำ มีการแพร่กระจายมายังผนังและต่อมน้ำเหลือง แพทย์เอ่ยขอโทษว่าไม่มีการรักษาที่เหมาะสมกับฉันในโรงพยาบาลในเนเธอร์แลนด์
>>หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมะเร็ง กรุณาคลิกเพื่อปรึกษาแพทย์
หลักจากคีโมเฉพาะจุดไป
ความเจ็บปวดก็ค่อยๆบรรเทาลง น้ำหนักเพิ่มขึ้นจาก 48 เป็น 52 กก.
เมื่อเวลาผ่านไป ฉันหมดหวังมากขึ้นและเริ่มค้นหาวิธีการรักษาทางเลือกสำหรับมะเร็งเต้านมแบบ Triple Negative ทางอินเทอร์เน็ต และโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวสแตมฟอร์ดก็ดึงดูดความสนใจของฉัน ฉันได้รู้ว่าผู้ป่วยจำนวนมากตกอยู่ความสิ้นหวังแต่รอดชีวิตมาได้ด้วยวิธีการรักษาบาดแผลเล็ก นี่แหละสิ่งที่ใจฉันต้องการ: ฉันอยากมีชีวิตรอด และต้องการคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น!
ดังนั้นฉันจึงปรึกษาเจ้าหน้าที่ทางออนไลน์และนัดหมายเพื่อรับคำปรึกษาทางไกล ในระหว่างการปรึกษาแพทย์ คุณหมอหม่าพูดกับฉันว่า: "โรงพยาบาลสามารถช่วยคุณได้ มีการรักษาแบบ บาดแผลเล็กมากมายที่เหมาะกับคุณ หากวิธีการรักษาไหนไม่ค่อยได้ผล เราก็ลองวิธีอื่นได้" คำพูดเหล่านี้ทำให้ฉันมีกำลังใจและพลังมากขึ้น ฉันและสามีตัดสินใจมารักษาที่ประเทศจีน
ฉันและคุณหมอหม่าถ่ายภาพร่วมกัน
เดือนพฤศจิกายน 2566 พวกเราเดินทางมาถึงโรงพยาบาล หลังจากตรวจร่างกายอย่างละเอียด ทีมแพทย์ MDT ของโรงพยาบาลก็ได้วางแผนการรักษาให้คีโมเฉพาะจุดและธรรมชาติบำบัด ในครั้งแรกของการให้คีโมเฉพาะจุด ฉันรู้สึกได้ถึงความผ่อนคลาย ระยะเวลาทั้งกระบวนการรักษาเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น
การรักษาคีโมเฉพาะจุดจะดำเนินการผ่านเครื่องฉายภาพ มีบาดแผลขนาดเล็กเพียง 2 มม. เท่านั้น ก็สามารถนำตัวยาคีโมผ่านสายยางขนาดเล็กฉีดเข้าไปยังก้อนมะเร็งได้โดยตรง ซึ่งความเข้มข้นของตัวยาคีโมแบบพิเศษนี้มีความเข้มข้นสูงกว่ายาคีโมทั่วไป 8-10 เท่า อีกทั้งปลอดภัยไม่ทำลายเซลล์เนื้อเยื่อปกติของร่างกายอีกด้วย เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการคีโมเฉพาะจุดแล้ว ฉันรู้สึกอ่อนเพลียเล็กน้อย แต่กลับไม่มีอาการคลื่นไส้อาเจียนเลย ในวันนั้นก็ถือว่าเป็นเวลาช่วงเย็นแล้ว ฉันทำการรักษาเสร็จก็สามารถทานอาหารเย็นได้ทันที
>>หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมะเร็ง กรุณาโทรเบอร์ 0610367888 0907099666 เพื่อปรึกษาแพทย์
คีโฒเฉพาะจุด ผลข้างเคียงน้อย ผลการรักษาดี
นึกถึงความหลังกับสามี ก่อนหน้านี้หลังการทำคีโมแบบทั่วไป อาการของฉันแย่มาก นอนพักอยู่บนเตียงอยู่หลายวัน แต่ในตอนนี้ ฉันใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างเป็นปกติ นี่ทำให้สามีของฉันรู้สึกวางใจ นับตั้งแต่วันนี้จนถึงวันนี้ ฉันได้รับการคีโมเฉพาะจุดไปแล้ว 3 ครั้ง จากกระบวนการรักษาทั้งหมด ความเจ็บปวดบริเวณทรวงอกซ้ายของฉันลดน้อยลงเรื่อยๆ ความอยากอาหารก็ดีขึ้น น้ำหนักฉันเพิ่มขึ้นจาก 48 กิโลกรัมเป็น 52 กิโลกรัม
ในภายหลัง ฉันได้ทำ CT scan ผลลัพธ์แสดงออกมา แพทย์ที่ดูแลฉัน คุณหมอไจ๋ได้กล่าวกับฉันอย่างตื่นเต้นว่า “ก้อนเนื้อมีขนาดเล็กลงเรื่อยๆ สามารถควบคุมโรคได้อย่างดี ร่างกายของคุณกำลังฟื้นฟูกลับมาเป็นปกติ นี่แสดงให้เห็นว่าการรักษาสำเร็จแล้ว!” ฉันรู้สึกดีใจมาก และรู้สึกดีที่การเดินทางมารักษาที่ต่างประเทศได้รับผลการรักษาที่ได้และน่าพอใจ
ไปเที่ยวเล่น 5 ชั่วโมงแสดงถึงสุขภาพร่างกายที่ดี
พวกเขาคือความหวังในเส้นทางการต้านมะเร็งของฉัน
หลังเข้าพักการรักษาในโรงพยาบาล ฉันได้เห็นว่า ผู้ป่วยที่นี่ถูกยกให้เป็นศูนย์กลางของโรงพยาบาล พยาบาลที่ดูแลคอยเอาใจใส่และให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยอย่างใส่ใจมาก
มีอยู่วันหนึ่ง ฉันพบว่าผลของตัวเองยาวมากแล้ว ตกลงมาบดบังดวงตา อยากตัดเล็มออกให้เร็วที่สุด ฉันได้บอกความต้องการนี้กับหัวหน้าพยาบาล เธอได้รีบหาอุปกรณ์ตัดผมมาให้ฉันอย่างรวดเร็ว และช่วยฉันเล็มผม ในตอนที่ฉันรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลท้องถิ่นที่บ้าน ก็ไม่ได้รับการบริการที่ใส่ใจขนาดนี้ พวกเขามักจะบอกกับฉันเสมอว่า “เป็นเรื่องที่คุณต้องดูแลเอง”
แต่เมื่ออยู่ที่นี่ คุณหมอทุกท่านมักจะบอกกับฉันขณะที่ตรวจเยี่ยมคนไข้ว่า ถ้าหากฉันต้องการอะไร ให้รีบบอกล่าม แพทย์ก็จะตอบรับในทันที
>>หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมะเร็ง กรุณาคลิกเพื่อปรึกษาแพทย์
ฉันและสามีถ่ายภาพร่มกับคุณหมอหม่า
หลังจากที่อาการดีขึ้นแล้ว คุณหมอไจ๋ได้กำชับให้ฉันเดินให้มากๆ และขยันออกกำลังกาย ดังนั้นฉันจึงเข้าร่วมกิจกรรมไปท่องเที่ยวของโรงพยาบาล ในวันนั้น ฉันได้ไปเที่ยวที่หย่งชิ่งฟาง และสวนสาธารณะเยว่ซิ่ว ตั้งแต่เวลาเที่ยงจนถึงห้าโมงเย็น ฉันเดินไป ชมวิวไป เวลาก็ผ่านไป 5 ชั่วโมงอย่างรวดเร็วโดยไม่รู้ตัว ฉันยืดหยัดต่อไป นั่นแสดงให้เห็นว่าร่างกายของฉันดีขึ้นมาก สามีถึงขนาดยกนิ้วให้เลย
พวกเราเข้าร่วมกิจกรรมท่องเที่ยวของโรงพยาบาล
ฉันและสามีรู้จักกันผ่านญาติแนะนำ และหลังจากที่ได้พูดคุยผ่านทางอินเตอร์เน็ต พวกเราก็ได้รักกันและแต่งงานกันในภายหลัง และมีลูกด้วยกัน 2 คน เขาให้ความสำคัญกับฉันเสมอ ผู้ป่วยนั้นต้องอาศัยความเอาใจใส่จากครอบครัว และนั่นคือสิ่งที่เขาดูแลฉันอย่างอดทนและใส่ใจจนทำให้ฉันผ่านสิ่งต่างๆ มาได้
ในระยะเวลาที่อยู่ในโรงพยาบาล เขาคอยสังเกตการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายฉันอยู่เสมอ คอยถ่ายภาพเอาไว้ และเขาคือแรงใจในการยืนหยัดต่อไปของฉัน ขอขอบคุณสามี ขอบคุณบุคลากรโรงพยาบาลทุกคน ที่เป็นแสงสว่างให้กับฉัน ให้ฉันยืดหยัดรักษาต่อไป และฉันเชื่อว่า อนาคตของฉันจะยิ่งดีขึ้นในอนาคต