เธอผู้มีผมสีชมพูสดใสของเธอโดดเด่นสะดุดตาท่ามกลางฝูงชนในวัยเกือบ 90 ปี เธอคือคุณสุนีรัตน์ ตัวแทนอดีตผู้ป่วยมะเร็งชาวไทยของโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่สแตมฟอร์ดกว่างโจว ประจำปี 2024 ปัจจุบันเธอกำลังจะฉลองครบรอบ 6 ปีแห่งความสำเร็จในการต่อสู้กับมะเร็งเต้านม
คุณสุนีรัตน์มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งเต้านม เธอและลูกสาวต่างได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งเต้านมในเวลาที่ใกล้เคียงกัน ตั้งแต่ผ่าตัดเต้านม กลับมาเป็นซ้ำ ไปจนถึงการเอาชนะมะเร็งได้สำเร็จ ล้วนเป็นเส้นทางที่เต็มไปด้วยความยากลำบาก แต่เธอกลับยืนหยัดอย่างมั่นคง เรื่องราวอันน่าประทับใจของเธอจะถูกบอกเล่าให้เราฟังอย่างฉะฉาน
>>หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมะเร็ง กรุณาคลิกเพื่อปรึกษาแพทย์
วินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งเต้านม——การกลับมาเป็นซ้ำหลังการผ่าตัดเต้านม
ในเดือนสิงหาคมปี 2018 ฉันบังเอิญพบก้อนเนื้อที่เต้านมข้างขวา จึงตัดสินใจไปตรวจที่โรงพยาบาล ได้ทำการตรวจ CT และอัลตราซาวด์เต้านม หลังจากนั้นได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งเต้านม รายงานพยาธิวิทยาระบุว่า 20% ของก้อนเนื้อเป็นมะเร็งชนิดลุกลาม (Invasive Cancer) และอีก 80% เป็นมะเร็งชนิดที่อยู่เฉพาะที่ (Carcinoma In Situ) ก้อนเนื้อมีขนาดประมาณ 4 เซนติเมตร และพบว่ามีการแพร่กระจายของมะเร็งไปยังต่อมน้ำเหลืองที่รักแร้ด้านขวา ฉันจึงเข้ารับการผ่าตัดเต้านมออกทั้งหมดตามคำแนะนำของแพทย์ พร้อมทั้งทำเคมีบำบัดหลายครั้งเพื่อป้องกันไม่ให้เซลล์มะเร็งตกค้างในร่างกาย
ความรักสวยรักงามเป็นธรรมชาติของมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้หญิงที่มีความหลงใหลในความงาม การผ่าตัดเต้านมออกทั้งหมดจึงเป็นการตัดสินใจที่ค่อนข้างลำบากใจสำหรับฉัน การรักษาไม่ได้เพียงแต่สร้างความเจ็บปวดทางร่างกายและบาดแผลที่ยากจะสมาน แต่ยังเป็นความทรมานทางจิตใจอีกด้วย ฉันเคยคิดว่าหากผ่านความเจ็บปวดเหล่านี้ไปได้ ฉันคงจะได้รับข่าวดีและสามารถกล่าวอำลามะเร็งได้ แต่ข่าวร้ายกลับตามมาอย่างไม่หยุดหย่อน
คุณสุนีรัตน์เข้าร่วมกิจกรรมอดีตผู้ป่วยมะเร็ง
นับถอยหลังสามเดือน การตัดสินใจภายใน5 วัน
ในเดือนกรกฎาคมปี 2019 ขณะเข้ารับการตรวจติดตามผล พบว่ากลับมาเป็นโรคมะเร็งซ้ำ อีกทั้งยังพบการแพร่กระจายหลายจุด รวมถึงที่ตับ ลูกสาวของฉันจึงรีบค้นหาโรงพยาบาลชื่อดังและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในประเทศไทยเพื่อดำเนินการรักษาต่อ แต่ไม่ว่าจะไปที่ไหน คำวินิจฉัยของแพทย์กลับเหมือนกันอย่างน่าตกใจ: ฉันมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกินสามเดือน นับแต่นั้นชีวิตของฉันก็เหมือนถูกบีบให้เข้าสู่โหมดนับถอยหลัง
>>หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมะเร็ง กรุณาโทรเบอร์ 0610367888 0907099666 เพื่อปรึกษาแพทย์
ชีวิตดูเหมือนจะเดินทางมาถึงจุดสิ้นสุด แต่ลูกสาวของฉันไม่เคยยอมแพ้ เธอบอกว่า “ถ้ารักษาในไทยไม่ได้ เราก็จะไปต่างประเทศ” เธอใช้เวลาค้นหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตทั้งวันทั้งคืน เนื่องจากลูกสาวของฉันเองก็เคยได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งเต้านมในปี 2015 และผ่านกระบวนการรักษาที่ยากลำบากมาแล้ว เมื่อเธอพบข้อมูลเกี่ยวกับการรักษาแบบบาดแผลเล็กของโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่สแตมฟอร์ดกว่างโจว เราจึงรีบไปที่ศูนย์บริการนานาชาติในกรุงเทพฯ (ที่รัชดา) เพื่อปรึกษาแพทย์ แพทย์ที่ศูนย์ฯดูผลการตรวจและประวัติการรักษาของเรา พร้อมวางแผนการรักษาเบื้องต้นอย่างรวดเร็ว จากขั้นตอนการปรึกษา การเตรียมเอกสารทำวีซ่าและพาสปอร์ต จนถึงการเดินทางไปยังโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่สแตมฟอร์ดกว่างโจว ใช้เวลาเพียง 5 วันเท่านั้น เรากำลังวิ่งแข่งกับเวลา และเลือกที่จะมอบความไว้วางใจอย่างเต็มที่
คุณสุนีรัตน์ได้รับเลือกให้เป็นผู้พิชิตโรคมะเร็ง
คุณสุนีรัตน์กับลูกสาว
การคีโมเฉพาะจุดร่วมกับการจี้ร้อนช่วยให้ฉันเอาชนะมะเร็งได้สำเร็จ
เมื่อเข้ารับการรักษาแพทย์ได้ทำการตรวจอย่างละเอียด ซึ่งฉันจำได้แม่นยำเพราะกระบวนการตรวจละเอียดมาก เทียบกับการตรวจในประเทศไทย แพทย์ที่นี่ซักประวัติอย่างละเอียดและอธิบายผลการตรวจอย่างชัดเจน หลังจากผลการตรวจออกมา พบว่าเซลล์มะเร็งได้แพร่กระจายเพิ่มไปยังตับ และได้รับการวินิจฉัยว่ากลับมาป็นมะเร็งเต้านมข้างขวาอีกครั้งหลังการรักษา พร้อมกับแพร่กระจายไปยังตับในระยะที่ 4
เนื่องจากก้อนมะเร็งมีขนาดใหญ่ จำนวนมาก และฉันยังมีโรคประจำตัว เช่น ความดันโลหิตสูงระดับ 3 และเบาหวานชนิดที่ 2 ทีมแพทย์ MDT ของโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่แสตมฟอร์ดกว่างโจวจึงได้วางแผนการรักษาตามสภาพโรคและความเหมาะสมของร่างกาย โดยเริ่มจากการใช้เทคนิค การจี้ร้อนด้วยคลื่นไมโครเวฟ (Microwave Ablation) เพื่อลดขนาดและจำนวนของเนื้องอก เพื่อลดภาระของตับ เทคนิคนี้ใช้เข็มขนาดเล็กจี้เข้าไปที่ก้อนมะเร็งในเต้านมโดยตรง ทำให้เซลล์ตายโดยไม่ต้องผ่าตัด และกระบวนการนี้มีความเจ็บปวดน้อยมาก เหมาะสำหรับผู้ป่วยสูงอายุอย่างฉัน
หลังจากเนื้องอกมีขนาดเล็กลง จึงทำการคีโมเฉพาะจุด (Interventional Therapy) โดยใช้วิธีฉีดยาเข้าไปในก้อนมะเร็งและอุดหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงก้อนเนื้อ ซึ่งมีความเข้มข้นของยาสูงกว่าการทำเคมีบำบัดทั่วไป และไม่ทำลายเนื้อเยื่อปกติ จึงเหมาะกับผู้ที่ร่างกายอ่อนแออย่างฉัน
หลังการรักษา ก้อนมะเร็งของฉันขนาดเล็กลงอย่างมาก จนสามารถเข้าสู่สภาวะ “อยู่ร่วมกับมะเร็ง” ได้อย่างมีคุณภาพชีวิตที่ดี
>>หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมะเร็ง กรุณาคลิกเพื่อปรึกษาแพทย์
ก้อนมะเร็งของสุนีรัตน์เล็กลง
ปัจจุบัน ฉันเอาชนะมะเร็งมาได้กว่า 5 ปีแล้ว สุขภาพของฉันดีขึ้นมาก ทุกอย่างในชีวิตกลับมาเป็นปกติ ฉันยังสามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างปกติ ไปปีนเขาได้บ่อยๆ ครั้งนี้ฉันรู้สึกดีใจมากที่ได้รับเชิญให้กลับมาที่โรงพยาบาลในฐานะอดีตผู้ป่วยมะเร็ง เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ส่วนตัวของฉัน นี่คือสิ่งที่ฉันอยากทำมาโดยตลอด การต่อสู้กับมะเร็งก็เหมือนการเดินทางผ่านค่ำคืนอันมืดมิดก่อนรุ่งสาง คุณไม่มีทางรู้ว่าจะได้พบแสงอาทิตย์ยามเช้าหรือไม่ และอาจไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่ามันจะมาถึงหรือเปล่า การเดินทางที่เดียวดายนี้เต็มไปด้วยความสับสน ความกลัว ความวิตกกังวล และอารมณ์หลากหลายที่สามารถกลืนกินคุณได้ ดังนั้น ฉันหวังว่าประสบการณ์ของฉันจะสามารถเป็นเหมือนดวงไฟที่ช่วยส่องสว่างให้กับผู้ที่กำลังต่อสู้กับมะเร็ง เพื่อให้พวกเขามีพลังและกำลังใจในการเดินหน้าต่อไป
คุณสุนีรัตน์พิชิตยอดเขา
วัยแห่งศตวรรษ :สัญญาใจร่วมสมัย
ครั้งนี้ที่ฉันกลับมา ฉันได้ไปเยี่ยมคุณหมอไต้เหวินเยี่ยน แพทย์เจ้าของไข้ของฉันซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งเต้านมที่มีชื่อเสียงของโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่แสตมฟอร์ดกว่างโจว แพทย์ท่านนี้ช่วยฉันเอาชนะมะเร็งด้วยความเชี่ยวชาญและความเอาใจใส่อย่างเต็มที่ และตอนนี้แพทย์ท่านนี้ก็ยังคงช่วยเหลือผู้ป่วยมะเร็งเต้านมนับหมื่นคนอย่างไม่หยุดยั้ง
ครั้งนี้ ฉันกับคุณหมอได้ตกลงกันว่าจะนัดพบกันอีกครั้งเมื่อฉันอายุครบ 100 ปี ฉันหวังว่าจะได้มาเยี่ยมเธออีกครั้ง และถ่ายรูปเก็บความทรงจำนี้ไว้ต่อไป ฉันและครอบครัวรู้สึกขอบคุณโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่แสตมฟอร์ดกว่างโจวเป็นอย่างยิ่ง หวังว่าทุกคนที่กำลังต่อสู้กับความเจ็บปวดจากโรคร้ายจะสามารถหาวิธีการรักษาที่เหมาะสมได้เหมือนกับฉัน และเอาชนะมะเร็งได้ในเร็ววัน
>>หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมะเร็ง กรุณาโทรเบอร์ 0610367888 0907099666 เพื่อปรึกษาแพทย์
คุณสุนีรัตน์และลูกสาวถ่ายภาพร่วมกับคุณหมอไต้และล่าม
คุณสุนีรัตน์ถ่ายรูปร่วมกับผู้ป่วยมะเร็ง