มะเร็งปรากฏขึ้นครั้งแรก พลังทีมแพทย์ทำลายความเงียบงัน
หลี่ซ่งเซิง (Ramli Rukiana) จากบาตัม อินโดนีเซีย ที่ปีนี้มีอายุ 50 ปี ในเดือนพฤศจิกายน 2566 เขามีอาการเสียงแหบมามากว่า 2 เดือนและอาการยังไม่ได้มีทีท่าว่าจะดีขึ้น หลังจากตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลในพื้นที่ แพทย์แจ้งเขาว่า "ยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด" และด้วยความสิ้นหวังเขาจึงเดินทางไปสิงคโปร์อีกครั้ง หลังจากตรวจ CT ก็ได้ผลตรวจพบว่าเป็น "มะเร็ง"
มิสเตอร์หลี่นึกย้อนไปในตอนที่รู้ว่าตัวเองเป็นมะเร็งครั้งแรก เขาก็อดไม่ได้ที่จะพึมพำออกมาว่า “ตอนนั้นฉันรู้สึกเสียใจมากจนไม่อยากพูดคุยกับใคร และก็ไม่คิดจะบอกญาติด้วย ฉันกังวลว่าพวกเขาจะเสียใจเหมือนกันกับฉัน และคิดว่าจะเลิกรักษา! ซึ่งการคิดแบบนี้นี้มันไม่ใช่ตัวฉันเลยสักนิด ฉันมองว่า เป็นมะเร็งก็เท่ากับตาย หรือไม่ก็รอความตายไปได้เลย ซึ่งตัวฉันเองนั้นรับความเจ็บปวดของการผ่าตัดและการฉายแสงไม่ไหว นอนอาการหนักอยู่บนเตียง โชคดีที่มีกำลังใจจากภรรยา ทำให้ฉันมีโอกาสได้ลองพูด คุยกับเพื่อนๆ และด้วยการช่วยเหลืออันเข้มแข็งของทีมแพทย์ ในที่สุดฉันก็ได้พบทางออก”
ภาพคุณหลี่กับภรรยา
>>หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมะเร็ง กรุณาคลิกเพื่อปรึกษาแพทย์
การรักษาแบบบาดแผลเล็กผลข้างเคียงต่ำที่แพทย์ระดับนานาชาติเลือกใช้
มีรายงานว่าเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ญาติของเขาเคยไปรักษาที่โรงพยาบาลในประเทศจีนเพื่อทำการรักษาโรคมะเร็ง และประสบความสำเร็จอย่างมาก มะเร็งไม่ได้กลับมาเป็นซ้ำจนถึงปัจจุบัน หลังจากทราบข่าวเขาก็เหมือนได้รับกำลังใจอย่างมาก ดังนั้น เขาและครอบครัวจึงเริ่มค้นหาโรงพยาบาลมะเร็งที่มีความเชี่ยวชาญและมีคุณภาพสูงในประเทศจีนทางออนไลน์ และบังเอิญไปค้นพบโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวสแตมฟอร์ดโดยไม่ตั้งใจ "หลังจากติดต่อกับเจ้าหน้าที่ของศูนย์บริการระหว่างประเทศเมดาน ฉันรู้สึกถึงความเอาใจใส่และความเป็นมืออาชีพของพวกเขาในระหว่างกระบวนการสื่อสารพูดคุย" ด้วยความช่วยเหลืออย่างกระตือรือร้นของเจ้าหน้าที่ เขาจึงได้ปรึกษากับทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากสหวิชาชีพผ่านทางวิดิโอคอลระยะไกลทาง ZOOM
ขณะนั้น คุณหลี่ได้แจ้งความกังวลต่อทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญว่า "ฉันไม่อยากเข้ารับการผ่าตัด การผ่าตัดมีความเสี่ยงเกินไปและใช้เวลาพักฟื้นนาน และฉันมีประวัติเป็นโรคหัวใจที่มีความเสี่ยงสูง ฉันหวังว่าเวลาในการรักษาจะไม่นานเกินไป เพราะฉันต้องกลับไปทำงานและดูแลครอบครัวด้วย" หลังจากได้ยิน ทีมผู้เชี่ยวชาญก็กล่าวกับคุณหลี่อย่างอดทนและหนักแน่นว่า "เราได้วินิจฉัยอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว จากรายงานพยาธิวิทยาของคุณ ในตอนแรกเราขอแนะนำให้แผนการรักษาแบบบาดแผลเล็ก วิธีการรักษานี้จะช่วยหลีกเลี่ยงการผ่าตัด บาดแผลมีขนาดเล็ก สามารถลดภาระที่ร่างกายจะต้องแบกรับได้ และยังเหมาะสมกับอายุและร่างกายของคุณในปัจจุบันอีกด้วย ซึ่งเราจะกำหนดแผนการรักษาของคุณในขั้นตอนต่อไป"
หลังจากได้รับคำตอบเชิงบวกจากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ คุณหลี่จึงเข้าโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่สแตมฟอร์ดกว่างโจวในเดือนธันวาคม 2023 ด้วยความมั่นใจ หลังจากการตรวจร่างกายอย่างครอบคลุม ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขาก็ได้อธิบายผลการตรวจให้เขาฟังว่า "คุณได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งปอดระยะที่ 4 (มะเร็งที่ไม่ใช่เซลล์ขนาดเล็กในปอดด้านซ้าย มะเร็งต่อมชนิดลุกลาม) ขนาดของเนื้องอกอยู่ที่ประมาณ 1.7 ซม. ร่วมกับมีการแพร่กระจายไปที่ต่อมน้ำเหลือง ตามอาการของคุณ เราจะวางแผนการรักษาแบบบาดแผลเล็กสำหรับคุณ การรักษาแบบบาดแผลเล็ก การคีโมเฉพาะจุดจะเป็นเพียงการให้ยาไปตรงจุดที่มีก้อนมะเร็งโดยตรงผ่านท่อขนาดเล็ก โดยใช้เครื่องสแกนในการช่วยนำทาง วิธีนี้ไม่ทำให้เซลล์ปกติเกิดความเสียหาย ไม่มีผลข้างเคียง ไม่จำเป็นต้องลงมีด สามารถกำจัดเนื้องอกได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ต้องผ่าตัด และยังเป็นมิตรกับโรคหลอดเลือดหัวใจอีกด้วย”
คุณหลี่และภรรยาถ่ายรูปร่วมกับผู้อำนวยการ, แพทย์และพยาบาลที่ชั้น 4
>>หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมะเร็ง กรุณาโทรเบอร์ 0610367888 0907099666 เพื่อปรึกษาแพทย์
การรักษาแบบบาดแผลเล็กสามารถเอาชนะอุปสรรคต่อโรคหลอดเลือดหัวใจและมะเร็งที่มีความเสี่ยงสูงได้สำเร็จ
คำอธิบายแผนการรักษาโดยละเอียดและเป็นมืออาชีพของทีมผู้เชี่ยวชาญจากสหสาขาวิชาชีพ ตลอดจนการดูแลเอาใจใส่ของเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ ทำให้คุณหลี่ ซึ่งในตอนแรกกลัวการเข้าโรงพยาบาลและเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจที่มีความเสี่ยงสูง ได้รับการรักษาด้วยความอุ่นใจ สำหรับทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขาของโรงพยาบาล กระบวนการรักษานี้ก็ยังคงมีความยากในระดับหนึ่ง เนื่องจากคุณหลี่ซึ่งได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งปอดระยะที่ 4 (ชนิดรุนแรง) ป่วยเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจและการทำงานของหัวใจมีเพียง 30% เท่านั้น
ด้วยความร่วมมือของทีมผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์การรักษาทางคลินิกมานานหลายปีและความเชี่ยวชาญจากสหสาขาวิชาชีพ ในที่สุดปัญหาสำคัญๆ ก็เอาชนะไปได้ “หลังการรักษาครั้งแรก รู้สึกว่าสภาพร่างกายดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และไม่รู้สึกถึงผลข้างเคียงใดๆ เช่น คลื่นไส้ อ่อนแรง สามารถทำกิจกรรมประจำวันได้ตามปกติ แถมยังล้อเล่นกับหมอด้วยว่าออกจากโรงพยาบาลได้เลย และจะกลับบ้านในวันรุ่งขึ้นหลังจากทำคีโมเฉพาะจุด” นายหลี่บอกเราด้วยรอยยิ้ม
หลังจากรายงานผลการตรวจออกมา ทีมผู้เชี่ยวชาญสหสาขาวิชาชีพได้อธิบายอาการให้เขาฟังว่า “ยินดีแจ้งให้ทราบว่าการรักษาสำเร็จแล้ว จากผลการตรวจพบว่าเนื้องอกในปอดของคุณดูเหมือนจะหายไปแล้ว และมะเร็งต่อมน้ำเหลืองในระยะลุกลามก็ลดลงอย่างเห็นได้ชัด ดูสิ การเปรียบเทียบผลการรักษาก่อนและหลังเห็นได้อย่างชัดเจน และอาการทางกายภาพก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด” หลังจากได้ยินสิ่งนี้ คุณหลี่และภรรยาก็จับมือหมออย่างมีความสุขเพื่อแสดงความขอบคุณ: "ขอบคุณมาก! เรามีความสุขมากและพอใจกับผลลัพธ์มาก!” ตั้งแต่กลับมาที่อินโดนีเซียจนถึงวันนี้ เขาก็ยังคงติดต่อเราอยู่หลายครั้งและบอกว่าเขามีสุขภาพที่ดี
วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2567 ผล CT แสดงให้เห็นว่าก้อนบริเวณปอดมีขนาดเล็กลงอย่างเห็นได้ชัด
วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2567 ผล CT แสดงให้เห็นว่าตรงบริเวณต่อมน้ำเหลือง ก้อนมะเร็งต้นกำเนิดดูเหมือนจะหายไปอย่างไร้ร่องรอย
“เมื่อเทียบกับโรงพยาบาลอื่น การรักษาที่นี่มีประสิทธิภาพสูง การตรวจร่างกายที่เกี่ยวข้องทั้งหมดสามารถทำให้เสร็จสิ้นได้ภายในเวลาประมาณ 2 วันนับจากเข้ารับการรักษา ต่อมาแพทย์ที่ดูแล ผู้อำนวยการวอร์ด และทีมผู้เชี่ยวชาญจากสาขาอื่น ๆ ก็ได้หารือเกี่ยวกับอาการของฉันร่วมกัน และในที่สุดเวลาที่รอคอยก็มาถึง ทีมแพทย์ได้แจ้งแผนการรักษาอย่างละเอียดและเขาได้อธิบายเรื่องการรักษาต่างๆ ในแผนการรักษาให้ฉันฟัง ซึ่งทำให้ฉันหมดกังวลไปอย่างสิ้นเชิงและรู้สึกวางใจ” โดยคุณหลี่ที่ปกติแล้วมีรับหน้าที่เป็นผู้จัดการทีมและมีประสบการณ์ในการบริหารทีมประมาณ 200 คน เขาเชื่อมั่นว่าการทำงานเป็นทีมคือกุญแจสำคัญในการบรรลุการรักษาที่ดี ผลลัพธ์คือกุญแจสำคัญ เขาจึงมั่นใจในโรงพยาบาลของเรา ทั้งเพื่อนและครอบครัวของเขา รวมถึงเพื่อนร่วมงาน ประหลาดใจกับผลลัพธ์ของการรักษาเป็นอย่างมาก "ฉันจะแนะนำโรงพยาบาลนี้ให้พวกเขา ประสบการณ์ส่วนตัวของฉันบอกฉันว่าเทคโนโลยีและบริการการรักษาเนื้องอกของโรงพยาบาลนี้ยอดเยี่ยมมาก" คุณหลี่ยกนิ้วโป้งเป็นการอนุมัติ
>>หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมะเร็ง กรุณาคลิกเพื่อปรึกษาแพทย์
คีโมเฉพาะจุดในวันที่ 2 คุณหลี่และภรรยารวมถึงผู้ป่วยท่านอื่นๆ ออกไปเที่ยวและถ่ายภาพร่วมกัน
ในระหว่างการรักษา คุณหลี่มีความอยากอาหารมากและกลายเป็น "คนกินจุ"
มิตรภาพต้านมะเร็งไร้พรมแดน
คุณหลี่เป็นคนร่าเริง ชอบพูดคุย ในระหว่างการรักษาเขามักจะไปเยี่ยมผู้ป่วยในหอผู้ป่วยอื่นเพื่อพูดคุยอยู่เสมอ "ฉันชอบที่จะพูดคุยกับพวกเขา แม้ว่าพวกเขาจะมาจากหลากหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็น สิงคโปร์ มาเลเซีย สหรัฐอเมริกา เวียดนาม ไทยและอื่นๆบางครั้งฉันก็ไม่เข้าใจภาษานั้นหรอก แต่ฉันก็จะใช้ Google Translate เพื่อแปลภาษาและพูดคุยสื่อสาร" เมื่อถูกบอกว่าไม่สามารถรักษาให้หายได้จากโรงพยาบาลอื่น มีการกลับมาเป็นซ้ำหลังจากเข้ารับการผ่าตัด หรือผู้ป่วยที่ถูกทรมานด้วยการรังสีบำบัด เมื่อมาที่นี่ก็จะพึงพอใจกับผลลัพธ์การรักษาและสามารถยกระดับคุณภาพชีวิตได้
เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2567 คุณหลี่ระหว่างเข้ารับการรักษา
เมื่อพูดถึงกระบวนการที่ยากลำบากในการต่อสู้กับโรคมะเร็ง คุณหลี่กล่าวออกมาอย่างซาบซึ้งใจว่า “ฉันรู้สึกขอบคุณแพทย์ พยาบาล ล่ามที่นี่มาก โดยเฉพาะศูนย์บริการนานาชาติเมดาน ตอนนี้พวกเขาเป็นเหมือนครอบครัว พวกเราคุ้นเคยกันมากขึ้นกว่าแต่ก่อน และด้วยสภาพแวดล้อมที่สะดวกสบายของโรงพยาบาลทำให้ฉันรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน ฉันอยากจะขอบคุณภรรยาที่คอยให้กำลังใจฉันในการต่อสู้กับโรคมะเร็งมาโดยตลอด ซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้ ทั้งกำลังใจที่ดี ทำให้ผลการรักษาของฉันออกมาดีมาก ด้วยเหตุนี้เอง ฉันจึงอยากให้กำลังใจทุกคนอยู่ตลอด หวังว่าพวกเขาเองก็สามารถรักษาจิตใจอันแจ่มใสและยืดหยัดรักษาต่อไปได้ และในท้ายที่สุดพวกเราทั้งหมดจะสามารถเอาชนะมะเร็งได้!”