“ฉันมั่นใจมากตอนมารักษาที่นี่ ไม่มีอะไรที่ต้องกังวลเลย ครอบครัวและเพื่อนๆให้การสนับสนุนฉันเป็นอย่างดี ตอนที่พวกเขาได้ยินว่าฉันจะมารักษาที่นี่ก็คิดว่ามันดี”ป้าเหลียงรู้สึกมั่นใจและกระตือรือร้นในการเดินทางหลายพันไมล์ไปรักษาที่จีน
อายุเกิน 70 แล้วยังมาเจอมะเร็งปอด
น้ำหนักลดฮวบ 7 กิโล
ป้าเหลียง อายุ 75 ปี มาจากเมืองอิโปห์ ประเทศมาเลเซีย
วันที่ 23 มกราคม 2567 ในวันธรรมดาๆ ป้าเหลียงซึ่งอยู่ที่บ้านจู่ๆ ก็รู้สึกหัวใจเต้นแรงและเจ็บหน้าอก จึงรีบไปตรวจที่โรงพยาบาลในท้องที่ หลังการตรวจแพทย์ตัดปัญหาโรคหัวใจออกไป พอมาดูที่ปอดก็พบว่าปอดซ้ายมีก้อนขนาดใหญ่ 2 ก้อน ขนาด 3.4*4.5*3.4 ซม. และ 4.4*2.5*3.6 ซม. ตามลำดับ ขณะเดียวกันผล CT แสดงให้เห็นว่า มีน้ำท่วมปอดปริมาณปานกลาง พอดูดน้ำไปตรวจก็พบว่าป้าเหลียงเป็นมะเร็งปอด
ข่าวร้ายนี้ทำให้คนที่มองโลกในแง่ดีอยู่เสมออย่างป้าถึงกับเครียด แต่เธอก็ยังเลือกที่จะเผชิญมันอย่างกล้าหาญ ตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ถึง 1 มีนาคมของปีเดียวกัน ป้าเหลียงเข้ารับการคีโมแบบทั่วไปที่โรงพยาบาลท้องที่ คีโมช่วยให้ป้าเหลียงหายจากอาการเจ็บหน้าอก แต่ก็ทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น น้ำหนักลดฮวบ 7 กิโลกรัม ผมร่วง ซึ่งอาการเหล่านี้ทำให้ป้าเหลียงที่ผอมอยู่แล้วดูผอมลงอีก
>>หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมะเร็ง กรุณาคลิกเพื่อปรึกษาแพทย์
(ป้าเหลียง)
เทคนิคการรักษาแบบบาดแผลเล็ก
คืนลมหายใจให้แก่ผู้ป่วยมะเร็งปอดอายุ 70 ปี
คนคิดบวกคงไม่โชคร้ายมากหรอก น้องชายของเพื่อนร่วมงานป้าเคยป่วยเป็นมะเร็งปอด หลังจากรักษาแบบบาดแผลเล็กที่โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวสแตมฟอร์ด เขาก็ได้รับชีวิตใหม่ ป้าเหลียงเล่าว่าน้องชายของเพื่อนร่วมงานเป็นมะเร็งปอดระยะที่ 4 ก่อนการรักษามะเร็งปอด เขามีอาการแน่นและเจ็บหน้าอก ไออย่างต่อเนื่อง และหายใจลำบากจนน้ำหนักลงไป 16 กิโลกรัม หลังจากรักษาแบบบาดแผลเล็ก อาการเหล่านี้ก็แทบจะหายไป ค่าบ่งชี้มะเร็งก็ลดลงอย่างเห็นได้ชัด การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้ทำให้เขารู้สึกสุขล้นและซาบซึ้ง เขาจึงแนะนำให้ป้าเหลียงได้รู้จัก
“เขารักษาที่โรงพยาบาลนี้มาแล้ว 4 ครั้ง พอกลับมาเขาก็แนะนำการรักษามะเร็งปอดในโรงพยาบาลนี้ให้ฉันรู้จัก ฉันคิดว่าดีกว่าโรงพยาบาลในท้องที่จึงรีบเข้ามาทันที” หลังจากพูดคุยกับเพื่อนที่เป็นมะเร็งท่านนี้ ป้าเหลียงก็รู้สึกถึงคนหัวอกเดียวกันและรู้สึกซาบซึ้งในคำแนะนำของเขา รู้สึกเหมือนกำลังได้รับความหวัง
ในวันที่ 6 มีนาคม หลังจากคีโมได้ไม่กี่วัน ป้าเหลียงก็มาโรงพยาบาลกับสามีของเธอด้วยความมั่นใจและคาดหวัง หลังจากตรวจอย่างละเอียดก่อนการรักษาพบว่ามะเร็งปอดของเธอได้แพร่กระจายไปยังต่อมน้ำเหลือง เยื่อหุ้มปอด และที่อื่นๆ แล้ว หลังจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของโรงพยาบาลเราได้ประเมินอย่างถี่ถ้วน ได้วางแผนการรักษา "การคีโมเฉพาะจุด + ธรรมชาติบำบัด" ให้แก่ป้าเหลียง
การคีโมเฉพาะจุด ตัวยาต้านมะเร็งมีความเข้มข้นกว่ายาคีโมแบบทั่วร่างกายถึง 2-92 เท่า ซึ่งยาจะออกฤทธิ์ต่อก้อนมะเร็งอย่างแม่นยำโดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อปกติอื่นๆ ผลข้างเคียงต่ำกว่า และปลอดภัยกว่าการรักษาแบบทั่วไป จึงเหมาะกับผู้ป่วยสูงอายุที่ผลการรักษาแบบทั่วไปไม่ค่อยดีอย่างป้าเหลียง
ป้าเหลียงได้รับการรักษาไปแล้ว 3 ครั้ง ผล CT แสกนครั้งล่าสุดแสดงให้เห็นว่ารอยโรคในปอดของป้าเหลียงเล็กลงอย่างมาก น้ำที่ท่วมเกือบครึ่งหนึ่งของปอดเธอก็หายไปเกือบหมดแล้ว! นอกจากนี้อาการไอและหายใจลำบากที่รบกวนการนอนหลับของเธอก็หายไป นี่เป็นครั้งแรกที่ป้าเหลียงได้นอนหลับสบายตลอดทั้งคืนนับตั้งแต่เธอล้มป่วย
>>หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมะเร็ง กรุณาโทรเบอร์ 0610367888 0907099666 เพื่อปรึกษาแพทย์
(ก่อนการรักษา vs หลังการรักษา)
“ตอนที่ฉันมาที่นี่ครั้งแรก รู้สึกหายใจไม่ออก ไม่สามารถออกกำลังกายแบบง่ายๆเหมือนคนอื่น หลังการรักษา อาการของฉันดีขึ้นเรื่อยๆ สภาพร่างกายโดยรวมดีขึ้นมาก รู้สึกสบายตัวมากเหมือนไม่ได้ป่วยเลย” ป้าเหลียงพูดด้วยดวงตาเป็นประกาย ราวกับกำลังยืนหยัดในสิ่งที่เธอเลือก
ตลอดการรักษามีพวกเขาอยู่เคียงข้าง
มะเร็งก็ไม่ได้น่ากลัวอีกแล้ว
เมื่อพูดถึงประสบการณ์การรักษาที่โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวสแตมฟอร์ด ป้าเหลียงก็ปลื้มใจมากว่า “บุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลนี้เก่งมาก โดยเฉพาะพยาบาล พวกเขาเป็นกันเองมาก ชอบหยอกล้อให้ฉันมีความสุข” เรื่องนี้สามีป้าเหลียงในฐานะสมาชิกในครอบครัวที่มาด้วยก็เข้าใจอย่างลึกซึ้งเช่นกัน “ที่นี่แตกต่างจากโรงพยาบาลในมาเลเซียอย่างมาก ที่นี่จัดเตรียมเตียงและสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับครอบครัวที่มาอยู่ด้วย มีห้องครัวแบบบริการตนเอง จัดส่งอาหารให้แก่เรา รวมถึงบริการรับ-ส่งที่สนามบิน วีซ่า ฯลฯ”
บนเส้นทางการต่อสู้กับโรคมะเร็ง นอกจากการได้รับการรักษาที่มีประสิทธิภาพแล้ว กำลังใจจากครอบครัวและเพื่อนฝูงที่คอยอยู่เคียงข้างก็สำคัญ ระหว่างการรักษาของป้าเหลียง ครอบครัวและเพื่อนๆ คอยทักทายและส่งคำอวยพรอันอบอุ่นให้เธอทุกวัน เช่น "ขอให้หายป่วยเร็วๆ" "มีความสุขเข้าไว้นะ" และอื่นๆ “ลูกชายของฉันก็เหมือนกัน เขาจะถามฉันทุกวันว่า 'แม่ วันนี้เป็นยังไงบ้าง? สามีของฉันก็ด้วย คอยดูแลเอาใจใส่ฉันทุกวัน ขอบคุณมากนะ!” ป้าเหลียงมองดูสามีที่นั่งอยู่ข้างๆ น้ำตาคลอเบ้า รู้สึกขอบคุณครอบครัวอย่างสุดซึ้งจนพูดไม่ออก
>>หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมะเร็ง กรุณาคลิกเพื่อปรึกษาแพทย์
(ป้าเหลียงกับสามี)
ถึงผู้ป่วยมะเร็งทั่วโลก ทั้งคู่กล่าวว่า “การเป็นโรคมะเร็งไม่ได้น่ากลัวเหมือนเมื่อ 20 หรือ 30 ปีก่อนอีกต่อไป เรามีโรงพยาบาลที่เชี่ยวชาญและเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ล้ำสมัย ดังนั้นต่อให้คุณจะเป็นมะเร็งก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เราสามารถหาวิธีจัดการมันได้”“สรุปก็คือ คนที่เป็นมะเร็งอย่างพวกเราจะต้องเผชิญกับมันด้วยการมองโลกในแง่บวก เราจะต้องเอาชนะโรคร้าย อย่าปล่อยให้มันเอาชนะเรา!”
ตราบใดที่ยังมีลมหายใจ เรายังคงมีโอกาสพลิกสถานการณ์อยู่เสมอ! ฉันหวังว่าเพื่อนๆที่เป็นมะเร็งทุกคนจะได้พบแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ หลุดพ้นจากสถานการณ์เลวร้ายได้ในที่สุด!