หายจากโรคมะเร็งมา 9 ปีแล้ว กลับไปยังสถานที่ที่มอบชีวิตใหม่
ในเดือนพฤศจิกายน ปี 2557 แอนนี่ ผู้ป่วยจากสุราบายา ประเทศอินโดนีเซีย ได้ไปโรงพยาบาลสแตมฟอร์ดมะเร็งกว่างโจวเพื่อรับการรักษามะเร็งโพรงจมูกระยะที่ 4 ด้วยวิธีคีโมเฉพาะจุด ในเดือนพฤศจิกายน ปี 2566 เข้าสู่ปีที่ 9 หลังการรักษา เธอกลับมาเข้าร่วมกิจกรรมผู้พิชิตมะเร็งกลับคืนสู่เหย้าที่โรงพยาบาลของเราจัดขึ้นในหัวข้อ “เส้นทางต้านมะเร็งอันยาวไกล เชื่อมโยงสายใยแห่งความผูกพัน” ด้วยร่างกายที่แข็งแรง
หลังจากผ่านไปหลายปี เธอรู้สึกคุ้นเคยและมีความสุขมากเมื่อได้กลับมายังสถานที่ที่ช่วยให้เธอเอาชนะโรคมะเร็ง หลายคน "มักจะกลัวเวลาพูดถึงมะเร็ง" แต่สำหรับแอนแล้ว การรักษาในโรงพยาบาลของเรากลับราบรื่นเกินคาด
“ตอนแรกคุณหมอบอกว่าเนื่องจากเป็นมะเร็งโพรงจมูกระยะที่ 4 จึงต้องคีโมเฉพาะจุด 4 ครั้ง แต่พอรักษาไป 2 ครั้ง ผล CT scan พบว่าเนื้องอกแทบจะหายไปแล้ว เห็นผลการรักษาชัดเจนมาก ฉันรู้สึกดีใจมาก ไม่คิดว่าผลจะดีขนาดนี้” แอนน์กล่าวอย่างมีความสุข
เมื่อถามว่าเธอก่อนจะมาโรงพยาบาลของเรารู้สึกกังวลหรือไม่ แอนก็บอกว่าเธอกังวลเรื่องภาษาและอาหาร อย่างไรก็ตาม หลังจากเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล เธอพบว่ามีนักแปลมืออาชีพคอยช่วยเหลือทุกอย่างตั้งแต่การเข้าโรงพยาบาล ตรวจร่างกาย และระหว่างการรักษา ไม่มีอุปสรรคในการสื่อสารเลย มันทำให้เธอรู้สึกว่าเธอได้รับเอาใจใส่ ในเรื่องของอาหาร เธอสามารถทำอาหารได้ด้วยตัวเองในครัวเล็กๆ นอกจากนี้ในละแวกโรงพยาบาลยังมีร้านอาหารอร่อยๆ ให้เลือกมากมาย ผู้ป่วยสามารถเข้าออกโรงพยาบาลได้อย่างอิสระหากได้รับอนุญาตจากแพทย์ “ฉันมีความสุขมากระหว่างการรักษาที่นี่ รู้สึกเหมือนไม่ได้มารักษาตัว แต่มาท่องเที่ยวมากกว่า” แอนน์กล่าวไปยิ้มไป
>>หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมะเร็ง กรุณาคลิกเพื่อปรึกษาแพทย์
แอนน์เข้าร่วมกิจกรรมผู้พิชิตมะเร็งกลับคืนสู่เหย้าที่จัดโดยโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวสแตมฟอร์ดในหัวข้อ “เส้นทางต้านมะเร็งอันยาวไกล เชื่อมโยงสายใยแห่งความผูกพัน” โดยหวังว่าจะนำประสบการณ์โดยตรงของเธอผลักดันให้ผู้ป่วยเลือกวิธีการรักษาที่ถูกต้อง ต่อสู้กับโรคมะเร็งด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ พยายามมองโลกในแง่บวก เชื่อมั่นในตนเอง และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ “เทคโนโลยีการรักษามะเร็ง 18 วิธีของโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวสแตมฟอร์ดนั้นล้ำสมัยมาก เทคนิคการรักษาแบบบาดแผลเล็ก รูปแบบการวินิจฉัยและการรักษาโดยทีมแพทย์เฉพาะทาง MDT สามารถช่วยผู้ป่วยเอาชนะโรคนี้ได้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ฉันหวังว่าประสบการณ์ของฉันจะสามารถช่วยผู้ป่วยให้ไม่ต้องเสียเวลาหาวิธีการรักษา และหายจากโรคมะเร็งในเร็ววัน”
หูอื้อ รูจมูกอุดตัน? ถูกวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งโพรงจมูกระยะที่ 3!
เดือนกันยายน ปี 2557 แอนเริ่มมีอาการหูอื้อ รูจมูกซ้ายอุดตัน ตอนแรกคิดว่าเป็นไข้หวัด แต่พอเวลาล่วงเลยอาการเหล่านี้ไม่ได้หายไป แพทย์แผนกหูตาคอจมูก ที่อินโดนีเซียบอกว่า ไม่มีอะไรร้ายแรงและเพียงแค่สั่งวิตามินให้เธอ
ฉันนึกว่านี่เป็นเพียงช่วงเวลาหนึ่งของชีวิต แต่ทุกอย่างเพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น!
หลังจากนั้นไม่นาน แอนน์รู้สึกว่ารูจมูกทั้งสองข้างอุดตัน และหายใจลำบากมากขึ้นเรื่อยๆ หูอื้อมีผลต่อการทำงานและชีวิตของเธอมาก โดยเฉพาะในยามกลางดึกอันเงียบสงบ รู้สึกเหมือนมีระฆังดังอยู่ในหู ทำให้เธอนอนหลับยาก ยิ่งไปกว่านั้นแอนน์พบก้อนเนื้อแข็งที่หลังใบหูด้วย สัญญาณเหล่านี้ทำให้เธอตระหนักถึงความร้ายแรงของเรื่องนี้
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่ากังวลที่สุดก็ได้เกิดขึ้น: หลังจากแอนน์ตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลในอินโดนีเซียได้รับการวินิจฉัย ว่าเป็นมะเร็งโพรงจมูกระยะที่ 3!
ในตอนแรกข่าวร้ายนี้ทำให้หัวใจของแอนน์พังทลายและสงสัยในความถูกต้องของผลการตรวจ อย่างไรก็ตาม เมื่อเธอได้รับผลตรวจร่างกายแบบเดียวกันในโรงพยาบาลต่างๆ การที่เธอเป็นคนมองโลกในแง่ดีจึงตัดสินใจยอมรับความจริง "เพื่อครอบครัวของฉัน ฉันไม่สามารถละทิ้งการรักษาได้!" แอนน์ปลอบใจตัวเองและภาวนา พร้อมกับกระตือรือร้นค้นหาวิธีรักษาโรคมะเร็งในคราวเดียวกัน
>>หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมะเร็ง กรุณาโทรเบอร์ 0610367888 0907099666 เพื่อปรึกษาแพทย์
ออกนอกประเทศเพื่อรักษาโรคมะเร็งจมูก: ฉันปฏิเสธการทำเคมีบำบัดทั่วร่างกาย
ในประเทศอินโดนีเซีย แอนน์และสามีของเธอได้เสาะหาตามโรงพยาบาลทุกแห่ง แต่ผลลัพธ์กลับไม่ได้เป็นอย่างที่พวกเขาคิด ดูเหมือนว่าแพทย์จากทุกที่ล้วนแนะนำให้เธอรีบเข้ารับการทำเคมีเฉพาะจุดและฉายแสงบำบัดโดยเร็ว แอนน์รู้ดีว่าผลข้างเคียงของการทำเคมีบำบัดอาจทำให้เธออ้วก ผมร่วงและร่างกายอ่อนแอ เธอและสามีก็ล้วนแต่ปฏิเสธการรักษา
ที่โชคดีคือ สามีของแอนน์ได้ค้นพบข้อมูลโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่แสตมฟอร์ดกว่างโจวของเรา แอนน์และสามีของเธอได้เข้ามารับคำปรึกษาที่สำนักงานของโรงพยาบาลเราในทันที “ที่นั่นมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เมื่อฉันได้รู้ถึงค่าใช้จ่ายคร่าวๆ หากต้องไปรักษาที่กว่างโจว ฉันและครอบครัวจึงได้ตัดสินใจบินไปกว่างโจวเพื่อเข้ารับการรักษา”
เดือนพฤศจิกายน ปี 2557 แอนน์และครอบครัวได้มาที่โรงพยาบาลของเราเป็นครั้งแรก ผลการตรวจทำให้เธอและครอบครัวตกใจมาก: ในเวลาไม่ถึง 2 เดือน มะเร็งจมูกที่ระยะ 3 ของแอนน์ได้ลุกลามเป็นมะเร็งจมูกระยะที่ 4 เสียแล้ว!
การรักษาโดยเคมีเฉพาะจุดทำให้ฉันไม่ต้องเจ็บปวดจากการเคมีและฉายแสงบำบัด
จากอาการของแอนน์ โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่แสตมฟอร์ดกว่างโจวได้จัดประชุมแพทย์จากหลากหลายแผนก ทั้งแผนกคีโมเฉพาะจุด แผนกมะเร็งวิทยาและแผนกอื่นๆ กว่า 10 แผนก และได้ตัดสินใจที่จะใช้การคีโมเฉพาะจุดมารักษาแอนน์
“หลังเข้าโรงพยาบาล 3 วัน ฉันก็ได้รับการรักษาคีโมเฉพาะจุดเป็นครั้งแรก สิ่งนี้ไม่เหมือนกับการผ่าตัดของอินโดนีเซีย การคีโมเฉพาะจุดใช้เวลาทำการรักษาเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น แีกทั้งยังให้ยาชาแค่เฉพาะจุดเท่านั้น ดังนั้นฉันจึงมีสติแจ่มชัดมาก จนถึงรับรู้การไหลเวียนของตัวยาที่ไหลจากต้นขาเข้าสู่ร่างกาย ในระหว่างกระบวนการรักษาฉันรู้สึกสบายมาก ไม่มีอาการผิดปกติเลย”แอนน์ได้กล่าวถึงกระบวนการทำเคมีเฉพาะจุดอย่างตื่นเต้น
ที่น่าแปลกใจก็คือ หลังจากเข้ารับเคมีเฉพาะจุดครั้งที่หนึ่งแล้ว อาการหูแว่วและจมูกอุดตันของแอนน์ได้หายไป ก้อนเนื้อที่แข็งเริ่มนิ่มลง อีกทั้งมีขนาดเล็กลงอย่างเห็นได้ชัด นี่ทำให้แอนน์ที่อยู่ในสภาวะกังวลใจรู้สึกโล่งใจเป็นอย่างมาก เมื่อทำเคมีเฉพาะจุดครั้งที่สอง แอนน์ไม่มีความกังวลใจหรือหวาดกลัว เธอเพียงเข้ารับการรักษาอย่างนิ่งสงบและรอรับผลการรักษาอย่างสบายใจ
แน่นอนว่า ผลลัพธ์ไม่ทำให้แอนน์และครอบครัวผิดหวัง ในเดือนมกราคม ปี 2558 หลังแอนน์ทำเคมีเฉพาะจุดครั้งที่สองเสร็จสิ้น ทำ CT สแกน เธอได้พบว่าเซลล์มะเร็งของเธอได้สงบลงแล้ว ที่เหลือขอเพียงแค่มาตรวจซ้ำตามนัดอย่างสม่ำเสมอก็เพียงพอ “ในตอนนั้นฉันคัดสมูกมาก มีอาการหูแว่ว อาการเหล่านี้หายไปทั้งหมด ฉันรู้สึกเหมือนว่าจะสัมผัสไม่ได้ถึงก้อนเนื้อที่อยู่บริเวณหลังหูแล้ว” แอนน์กล่าวอย่างมีความสุข
>>หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมะเร็ง กรุณาคลิกเพื่อปรึกษาแพทย์
ตรวจร่างกายอย่างสม่ำเสมอ ทำให้ฉันยิ่งมั่นใจมากขึ้น
เดือนสิงหาคม ปี 2560 เมื่อแอนน์ได้รู้อาการและผลการตรวจของตนเองจากแพทย์เจ้าของไข้ เธอและครอบครัวมีความสุขมาก: ผล CT แสดงว่าก้อนมะเร็งหลังหูและในโพรงจมูกหายไปแล้ว ไม่มีสัญญาณการกลับมาเป็นซ้ำ หลังจากผ่านไป 3 ปี อาการของแอนน์อยู่ในสภาวะสงบนิ่ง ร่างกายแข็งแรงดี ทำให้ผู้คนดูไม่ออกเลยว่าสามปีก่อนเธอคือผู้ป่วยมะเร็งจมูกระยะที่สี่
ในเดือนสิงหาคม ปี 2560 CT scan พบว่าเนื้องอกในโพรงจมูกของแอนหายไปหมดแล้ว