ในปี 2565 เธอป่วยเป็นมะเร็งกระดูกอ่อนระยะสุดท้าย และเป็น “อัมพาต” หลังจากการผ่าตัด คีโมกับฉายแสง หมอแจ้งว่าเธอจะมีชีวิตเหลือเพียง 1 ปี ทางโรงพยาบาลอื่นๆ ไม่รักษาฉันแล้ว ฉันรู้สึกสับสนและสิ้นหวัง อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาที่ฉันที่สิ้นหวังที่สุดฉันก็ได้พบกับโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่สแตมฟอร์ดกว่างโจว หลังจากที่ได้รับการรักษาด้วยการฝังแร่ร่วมกับการคีโมเฉพาะจุดและธรรมชาติบำบัด ตอนนี้ไม่เพียงแต่ก้อนมะเร็งเท่านั้นที่หายไป ฉันยังสามารถเดินได้ตามปกติอีกด้วย ขอขอบคุณพระเจ้า
เผชิญหน้ากับโรคมะเร็ง พร้อมสู้ไปด้วยกัน
กลับมาเป็นมะเร็งกระดูกอ่อนซ้ำหลังการผ่าตัด แพทย์แจ้งว่าฉันมีชีวิตเหลือเพียง 1 ปีเท่านั้น
ในเดือนพฤศจิกายน ปี 2565 ฉันมีอาการปวดท้อง ผลการตรวจพบว่าเป็นโรคมะเร็งกระดูกอ่อนชนิด (Malignant spindle cell sarcoma) ฉันได้ทำการผ่าตัดที่โรงพยาบาลในประเทศมาเลเซีย ผลตรวจหลังการผ่าตัดชี้ให้เห็นว่า มะเร็งกระดูกอ่อนมีขนาดประมาณ 3x5 ซม. ขณะที่ฉันคิดว่าความโชคร้ายได้สิ้นสุดลงแล้ว ในเดือนกรกฎาคม ปี 2566 ฉันได้กลับมาเป็นมะเร็งซ้ำและพบการแพร่กระจายไปยังอวัยวะหลายจุด แพทย์แจ้งว่าฉันมีชีวิตเหลือเพียง 1 ปี และแนะนำให้ผ่าตัดอีกครั้ง ในขณะนั้น ฉันตัดสินใจปฏิเสธอย่างเด็ดขาด เพราะเมื่อย้อนนึกถึงการผ่าตัดที่ยาวนานถึง 8 ชั่วโมงที่ทรมานและเจ็บปวด ฉันไม่อยากที่จะเผชิญกับมันอีกแล้ว ฉันจึงเลือกที่จะคีโมและฉายแสงกว่า 30 ครั้งที่โรงพยาบาลในประเทศอินโดนีเซีย ไม่เพียงแต่ไม่สามารถควบคุมโรคได้ แต่ยังทำให้ฉันเป็นอัมพาตนอนอยู่บนเตียงอีกด้วย
>>หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมะเร็ง กรุณาคลิกเพื่อปรึกษาแพทย์
ปฏิเสธการฉายแสงและการคีโมที่มีผลข้างเคียงรุนแรง และเลือกใช้เทคนิคการรักษาแบบแผลเล็กซึ่งเจ็บปวดน้อยกว่า
ผลข้างเคียงหลังจากการฉายแสงและการคีโม เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ผิวหนังลอกและผิวคล้ำ ทำให้ฉันตกอยู่ในสถานการณ์ที่สับสนและสิ้นหวัง เมื่อนึกถึงตอนที่ฉายแสงและคีโม ฉันก็กลัวมากๆ ดังนั้นฉันและครอบครัวจึงค้นหาโรงพยาบาลมะเร็งเฉพาะทางผ่านทางอินเตอร์เน็ตด้วยความหวังเพียงน้อยนิดที่จะมีชีวิตรอด จนฉันได้พบกับโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่สแตมฟอร์ดกว่างโจว ซึ่งมีเทคโนโลยีการรักษามะเร็งแบบใหม่ถึง 18 ชนิด ฉันจึงมีความหวังในการต่อสู้กับโรคมะเร็งอีกครั้ง ดังนั้นฉันจึงติดต่อกับศูนย์บริการระหว่างประเทศในจาการ์ตาเพื่อปรึกษาทางไกลกับผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็ง เมื่อได้ทราบถึงการรักษามะเร็งแบบแผลเล็กซึ่งเจ็บปวดน้อย มีผลข้างเคียงน้อย และฟื้นตัวได้เร็ว ฉันจึงตัดสินใจเข้ารับการรักษา
การบูรณาการวิธีรักษาแบบแผลเล็กสามารถทำลายก้อนมะเร็งได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพมากกว่าวิธีการรักษาแบบทั่วไป
ในเดือนพฤษภาคม ปี 2567 ฉันได้เดินทางไปที่โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่สแตมฟอร์ดกว่างโจว หลังจากการตรวจร่างกายอย่างครบถ้วน ทีมแพทย์ MDT ได้วางแผนการรักษาด้วยการคีโมเฉพาะจุด การฝังแร่ และธรรมชาติบำบัดให้แก่ฉันตามผลตรวจที่ออกมา การคีโมเฉพาะจุดคือการฉีดยาต้านมะเร็งที่มีความเข้มข้นสูงกว่าทั่วไป 2-92 เท่าเข้าไปยังก้อนมะเร็งโดยตรงผ่านทางท่อขนาดเล็ก ทำให้ก้อนมะเร็งตายลง ส่วนการฝังแร่ เป็นการปล่อยรังสีไอโอดีน -125 อย่างต่อเนื่องไปยังก้อนมะเร็งเพื่อทำลายเซลล์มะเร็งทั้งหมด ส่วนการรักษาแบบธรรมชาติบำบัด เป็นการปรับและซ่อมแซมระบบภูมิคุ้มกัน เพื่อควบคุมไม่ให้กลับมาเป็นมะเร็งซ้ำอย่างมีประสิทธิภาพ
การรักษาแบบแผลเล็ก ประสิทธิภาพดีกว่าการคีโมฉายแสงแบบทั่วไปหลายเท่า
>>หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมะเร็ง กรุณาโทรเบอร์ 0610367888 0907099666 เพื่อปรึกษาแพทย์
ในระหว่างการรักษา จะใช้เพียงยาชาเฉพาะจุด ทำให้มีความปลอดภัยสูง ฉันมีสติรู้สึกตัวตลอดกระบวนการรักษา และไม่รู้สึกเจ็บปวดเลย หลังจากการรักษา ฉันไม่มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ผิวหนังลอก หรือผิวคล้ำ วิธีการรักษาแบบแผลเล็กนั้นมีความอ่อนโยนกว่าการผ่าตัด การคีโมและฉายแสงแบบทั่วไปมาก แพทย์กล่าวว่าการรักษาแบบนี้จะไม่ทำลายเซลล์และเนื้อเยื้อปกติอื่นๆ ในร่างกาย ฉันจึงสามารถรักษาคุณภาพชีวิตที่ดีระหว่างการรักษาได้
หลังจากได้รับการรักษาแบบแผลเล็กอย่างบูรณาการหลายครั้ง ตอนนี้ฉันสามารถเดินได้ตามปกติ โดยไม่ต้องใช้วีลแชร์อีกต่อไป เมื่อไม่กี่วันก่อน แพทย์ได้เผยข่าวดีว่า ผลการตรวจล่าสุดแสดงให้เห็นว่าก้อนมะเร็งตายหมดแล้ว ฉันขอขอบคุณพระเจ้าและแพทย์ที่ช่วยให้ฉันไม่ต้องฉายแสงและคีโมแบบเดิมและไม่ต้องอัมพาตอีก ตอนนี้สภาพร่างกายของฉันดีขึ้นมาก สามารถออกไปทานอาหารที่ร้านอาหารอินโดเซียใกล้ๆได้แล้ว
ภาพซ้าย: ก้อนมะเร็งกระดูกเชิงกรานก่อนการรักษาเห็นได้ชัด ภาพขวา:ก้อนมะเร็งหลังการรักษาตายไปเกือบหมดแล้ว
รู้สึกประทับตราตรึงใจในบรรยากาศที่อบอุ่นและเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์
บรรยากาศที่อบอุ่นทำให้รู้สึกสบายในระหว่างการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล แพทย์และพยาบาลที่เป็นมิตรทำให้ฉันสามารถรับการรักษาได้อย่างมีความสุขและปลอดภัย ฉันพอใจกับทุกอย่างที่นี่ สิ่งเหล่านี้ทำให้ฉันมีกำลังใจในการต่อสู้กับมะเร็ง
ศาสตราจารย์ แพทย์ และล่าม จะเข้ามาตรวจสุขภาพทุกวัน ดังนั้นเวลาเกิดอะไรขึ้นฉันสามารถสื่อสารกับพวกเขาได้โดยตรง และจะได้รับความช่วยเหลือทันที นอกจากนี้โรงพยาบาลยังจัดกิจกรรมการท่องเที่ยว งานเฉลิมฉลองในเทศกาลต่างๆ และงานเลี้ยงวันเกิดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อบรรเทาความเครียดของผู้ป่วยในระหว่างการรักษา
>>หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมะเร็ง กรุณาคลิกเพื่อปรึกษาแพทย์
ในวันที่12 พฤษภาคม 2567 วันแม่สากล เจ้าหน้าที่ได้นำดอกไม้มามอบให้ นี่ช่างเป็นประสบการณ์ที่พิเศษมากๆ
ขอบคุณเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ที่ดูแลรักษาอย่างใส่ใจ ทำให้ฉันสามารถเดินได้อีกครั้ง
หวังว่าเพื่อนๆ ที่กำลังเผชิญกับมะเร็งจะมีความหวังและรับการรักษาอย่างกระตือรือร้น อย่าลืมสวดภาวนาและเชื่อมั่นว่าพระเจ้าจะคอยคุ้มครองเรา ให้เราสามารถเอาชนะมะเร็งได้โดยเร็ว