วันที่ 15 พฤศจิกายน 2566 โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่แสตมฟอร์ดกว่างโจวได้จัดกิจกรรม “การเดินทางของผู้กล้าต้านมะเร็งกลับฐานการฝึกอบรมทางการแพทย์ด้านเนื้องอกวิทยาแบบบูรณาการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง”กิจกรรมนี้ได้เชิญผู้กล้าต้านมะเร็งจากนานาประเทศกว่า 9 ท่าน เพื่อมาแบ่งปันประสบการณ์และความรู้สึกในการต่อสู้กับโรคมะเร็ง
ผู้กล้าต้านมะเร็งต่อมน้ำลายจากประเทศมาเลเซีย—คุณเฉิน ได้ถูกเชิญชวนให้เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ด้วย คุณเฉินเป็นผู้กล้าต้านมะเร็งที่ประสบความสำเร็จในการต้านมะเร็งเข้าปีที่ 6 แล้ว ในระหว่างกิจกรรมเธอรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมแบ่งปันประสบการณ์และความรู้สึกของตนเองในเส้นทางการเอาชนะโรคมะเร็งนี
(ภาพถ่ายรวมของคุณเฉินและผู้กล้าต้านมะเร็งท่านอื่น)
การลงมีดและการทำคีโมทำให้ร่างกายของฉันมีบาดแผลมากมาย
คุณเฉิน ปีนี้อายุ 40 ปีแล้ว เธอเป็นผู้ป่วยมะเร็งต่อมน้ำลายจากประเทศมาเลเซีย ในเดือนพฤศจิกายน ปี 2558 คุณเฉินได้ตรวจพบก้อนเนื้อบริเวณหลังใบหูข้างขวา ขนาด 2*3 เซนติเมตร และได้ถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็งต่อมน้ำลาย ในระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนสิงหาคม 2559 คุณเฉินได้เข้ารับการผ่าตัดในโรงพยาบาลประจำท้องที่ประเทศมาเลเซียและทำฉายแสงบำบัด 33 ครั้ง หลังจากนั้นในเดือนตุลาคม กลับพบว่ามีการลุกลามไปถึงดวงตาขวาด้านใน ในขณะนั้นแพทย์แนะนำให้เข้าผ่าตัดเพื่อตัดตาขวาทิ้ง เมื่อได้ยินดังนั้นคุณเฉินก็เกิดความรู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมาก
ก่อนหน้านี้ คุณเฉินเลือกที่จะเผชิญหน้ากับโรคนี้เพียงลำพัง เพราะไม่อยากให้คนในครอบครัวกังวลใจและไม่ได้บอกกล่าวสิ่งใดกับพวกเขาอีกด้วย แต่จากการรักษาเหล่านี้ทำให้ร่างกายของคุณเฉินเต็มไปด้วยร่องรอยบาดแผล การฉายแสงจำนวนมากทำให้ผิวหนังของคุณเฉินเกิดการเปลี่ยนแปลงไป ใบหน้าซีกขวาบวมโต ดังนั้นเมื่อต้องเผชิญหน้ากับความอันตราย คุณเฉินได้เกิดความหวาดกลัว จึงทำได้เพียงแต่บอกสิ่งเหล่านี้กับคนในครอบครัว ด้วยแรงกำลังใจจากครอบครัว และเพื่อเก็บรักษาดวงตาขวาเอาไว้ คุณเฉินก็ได้เริ่มสืบค้นผ่านทางอินเตอร์เน็ต และในที่สุด คุณเฉินก็ได้พบกับโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่แสตมฟอร์ดกว่างโจว เมื่อเธอได้ทำความเข้าใจและสืบค้นมาระยะหยึ่งแล้ว คุณเฉินได้กอดความหวังสุดท้าย เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเล มาเพื่อเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลของเรา!
>>หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมะเร็ง กรุณาคลิกเพื่อปรึกษาแพทย์
เดือนกุมภาพันธ์ ปี2560 ก่อนเข้ารับการรักษา
(ในโพรงจมูกเต็มไปด้วยก้อนเนื้อมะเร็ง ลูกตาถูกกดทับจนเคลื่อนจากตำแหน่งเดิม)
การรักษาด้วยวิธีบาดแผลเล็กสามารถรักษาดวงตาของฉันเอาไว้ได้
มีชีวิตอยู่เกิน 6 ปีแล้ว
ปี 2560 คุณเฉินในวัย 33 ปีได้เดินทางมาที่โรงพยาบาลของเราเพียงลำพัง หลังจากเข้ารับการตรวจร่างกายอย่างละเอียด ทางทีมแพทย์MDTได้วางแผนการรักษาอย่างครอบคลุมด้วยวิธีบาดแผลเล็ก “การคีโมเฉพาะจุด + การฝังแร่อนุภาค” ก่อนเข้ารับการรักษา เพื่อลดความกังวลขณะเข้ารับการรักษาของคุณเฉิน แพทย์เจ้าของไข้ได้อธิบายขั้นตอนการรักษาอย่างละเอียด: การคีโมเฉพาะจุดคือการใช้เครื่องมือพิเศษที่มีความแม่นยำสูง นำทางการส่งสายฉีดยาเข้าไปยังบริเวณก้อนเนื้อโดยตรง ในขณะเดียวกันก็ทำการอุดตันหลอดเลือดที่หล่อเลี้ยงก้อนมะเร็ง การทำเช่นนี้จะทำให้ก้อนเนื้อมีขนาดเล็กลงจนถึงหายไป โดยที่บาดแผลมีขนาดที่เล็ก ผลข้างเคียงต่ำ ร่างกายฟื้นฟูได้เร็ว ส่วนการฝังแร่อนุภาคคือการฝังแร่ไอโอดีน125เข้าไปในก้อนมะเร็งหรือบริเวณเนื้อเยื่อที่มีเซลล์มะเร็ง ตัวแร่จะปล่อยรังสีออกมา ปลดปล่อยออกมาภายในก้อนมะเร็ง ซึ่งมีประสิทธิภาพเป็นอย่างมากในการรักษามะเร็งจากตัวมะเร็งต้นกำเนิด หลังจากการทำคีโมเฉพาะจุดครั้งแรกเสร็จ ภายในระยะเวลาเพียง 3 วัน ก้อนมะเร็งบริเวณใต้ตาขวาของคุณเฉินก็มีขนาดเล็กลงอย่างเห็นได้ชัด หลังจากเสร็จสิ้นการรักษาในวันที่ 4 ใบหน้าของคุณเฉินก็ไม่พบความผิดปกติอันใดแล้ว
>>หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมะเร็ง กรุณาโทรเบอร์ 0610367888 0907099666 เพื่อปรึกษาแพทย์
(เดือนมีนาคม 2560 หลังรักษาคีโมเฉพาะจุดครั้งที่ 1)
(ก้อนเนื้อในโพรงจมูกมีขนาดเล็กลง ใบหน้ากลับรูปร่างเดิม ดวงตาได้ฟื้นฟูกลับมาเหมือนเดิม)
(ก่อนรักษา VS หลังรักษาไปหนึ่งครั้ง)
“เธอเข้ารักษากับพวกเรารวมทั้งหมด 4 ครั้ง ทำคีโมเฉพาะจุดและฝังแร่อนุภาค ในครั้งที่ 2 ขณะคีโมเฉพาะจุด อาการดีขึ้น และหลังจากเข้ารับการรักษาทั้งหมด ขณะนี้ก้อนเนื้อมะเร็งในร่างกายของเธอได้อยู่ในสถานะควบคุมเอาไว้ได้แล้ว” ในระหว่างงานกิจกรรม แพทย์เจ้าของไข้ของคุณเฉิน คุณหมอหลิน ได้ทำการแบ่งปันอาการโดยรวมของคุณหลินเอาไว้
(หลังรับการรักษาครั้งที่ 4)
“โรงพยาบาลท้องถิ่นที่มาเลเซียได้ให้แผนการรักษาฉันคือการผ่าตัดและเคมีบำบัดแบบดั้งเดิม เนื่องจากก้อนมะเร็งของฉันมันโตอยู่รอบดวงตา ดังนั้นหากผ่าตัดแล้วอาจมีโอกาสเสียดวงตาข้างหนึ่งไป แต่การรักษาของที่นี่นั้นเป็นบาดแผลเล็กทั้งหมด เป็นวิธีที่ไม่ต้องลงมีด ที่นี่ทำให้ฉันสามารถรักษาดวงตาของฉันไว้ได้!””เหมือนฉันมาพักร้อน ลางานไม่กี่วันก็กลับไปทำงานได้แล้ว คนอื่นไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฉันมารักษา”จากการสัมภาษณ์ หากกล่าวถึงความแตกต่างระหว่างการรักษาสองแห่งนี้ และสุดท้ายแล้วได้ตัดสินใจเลือกโรงพยาบาลของเรา คุณเฉินได้กล่าวด้วยความประหลาดใจและดีใจไปพร้อมกัน
ปัจจุบันนี้ นับตั้งแต่ปี 2560 ที่ฉันเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่แสตมฟอร์ดกว่างโจว คุณเฉินเก็บรักษาดวงตาเอาไว้ได้ และสามารถอยู่ร่วมกับมะเร็งมาได้ยาวนานกว่า 6 ปี!
“ที่นี่สร้างความประทับใจแก่ฉันตั้งแต่ครั้งแรก เพราะฉันเป็นคนเชื้อสายจีน มาที่นี่รู้สึกเหมือนได้กลับบ้าน เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ที่โรงพยาบาลจัดเตรียมทุกอย่างให้ฉัน ฉันคิดว่าการบริการที่นี่ดีกว่าที่ฉันเคยสัมผัสมาในมาเลเซีย” ในระหว่างงาน คุณเฉินได้แสดงความขอบคุณและชื่นชมเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ของโรงพยาบาล “หมอที่นี่มาหาเราทุกเช้าและถามว่ารู้สึกอย่างไรบ้าง ทำให้ฉันรู้สึกผ่อนคลายทุกวัน”
เนื่องจากคุณเฉินมาคนเดียว เพื่อไม่ให้เกิดความรู้สึกปรับตัวไม่ได้หรือความไม่สบายใจเวลาอยู่ต่างประเทศ เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ของโรงพยาบาลจึงให้การดูแลและอำนวยความสะดวกแก่เธอมากยิ่งขึ้น อาจเป็นเพราะเหตุผลเหล่านี้ประกอบกับความร่าเริงและความอบอุ่นของคุณเฉิน ที่ทำให้เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ของโรงพยาบาลได้เห็นการเดินทางทางการแพทย์ที่แสนอบอุ่น “ตอนที่เธอมารักษาที่โรงพยาบาลของเราครั้งแรก คุณเฉินอยู่ในสภาพที่ไม่สู้ดีนัก สีหน้าค่อนข้างแย่และตาขวาก็โปน ซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตของเธอด้วย หลังจากรักษาไปหลายครั้ง เธอก็มีสภาพเหมือนคนปกติ แทบไม่มีผลข้างเคียงใดๆ และอาการของเธอก็ดีขึ้นเรื่อยๆ หลังจากติดตามผลหลายครั้ง อาการของเธอก็สงบลง และไม่มีสัญญาณของการกลับมาเป็นซ้ำอีก" เจ้าหน้าที่ทุกคนที่ดูแลเธอต่างประหลาดใจกับการเปลี่ยนแปลงของนางสาวเฉิน และแสดงความยินดีที่ได้เห็นนางสาวเฉินอาการดีขึ้น และหวังว่าเธอจะดีขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคต!
>>หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมะเร็ง กรุณาคลิกเพื่อปรึกษาแพทย์
การช่วยเหลือผู้อื่นจะทำให้คุณรู้สึกดี
คุณเฉินเป็นคนมีชีวิตชีวาและตลก นี่ไม่เพียงแสดงให้เห็นว่าเธอเป็นคนเข้มแข็งและมองโลกในแง่ดีแม้ว่าจะเผชิญกับความยากลำบากต่างๆ ในระหว่างที่เธอพักอยู่ในโรงพยาบาลของเรา เธอได้ใช้แสงสว่างและความอบอุ่นของเธอปลอบโยนและให้กำลังใจผู้ป่วยต่างชาติรายอื่นที่มารับการรักษา
(คุณเฉิน ณ ปัจจุบัน)
“ในช่วงที่คุณเฉินไม่ได้ทำการรักษา เธอมักจะพูดคุยกับผู้ป่วยหรือแพทย์และพยาบาลคนอื่นๆ เธอทำให้ทุกคนหัวเราะได้ตลอดเวลา เธอเป็น 'คนสายฮา' จริงๆเลย” พยาบาลที่คุยกับเธอบ่อยๆ กล่าว ยิ่งไปกว่านั้นคือ เมื่อเธอรู้ว่ามีผู้ป่วยมะเร็งโพรงจมูกมาโรงพยาบาลคนเดียวเหมือนเธอ เธอก็ผุดความคิดที่จะพักห้องเดียวกันกับเธอ โดยหวังว่าจะได้เป็นเพื่อน ช่วยเหลือและให้กำลังใจซึ่งกันและกัน “ผู้ป่วยบางคนอาจจะอยู่ในสภาพย่ำแย่แต่สภาพจิตใจของฉันยังดีอยู่ ดังนั้นบางครั้งฉันจะไปคุยกับพวกเขาเพื่อให้ทุกคนผ่อนคลาย ฉันคิดว่านี่เป็นสิ่งที่ดี เมื่อได้ช่วยเหลือผู้อื่น ฉันก็รู้สึกดีไปด้วย”
ในระหว่างงานนี้ คุณเฉินยังได้สัมผัสประสบการณ์การเดินทางอันแสนวิเศษไปยังกวางโจวร่วมกับคนดังผู้ต่อต้านมะเร็งคนอื่นๆ พวกเขาเดินทางไปที่แม่น้ำเพิร์ลในเวลากลางคืนเพื่อสัมผัสความเจริญรุ่งเรืองของเมืองสมัยใหม่ พวกเขาเดินทางไปด้วยกันที่สวนเป่าโหม่อเพื่อชื่นชมวัฒนธรรมจีนที่กว้างและลึกซึ้ง ไม่มีร่องรอยของมะเร็งบนร่างกาย แทนที่ด้วยรอยยิ้ม 100% และการมองโลกในแง่ดีและความมีชีวิตชีวา
(ท่องเที่ยวกว่างโจว)
จากคำกล่าวสุดท้ายของคุณเฉิน เธอได้กล่าวด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความแน่วแน่ “ครั้งนี้กลับมาที่นี่ในนามของผู้กล้าต้านมะเร็ง ฉันรู้สึกมีความสุขมาก หลายปีมานี้ฉันยังได้มาที่นี่””ฉันอยากบอกกับผูป่วยมะเร็งท่านอื่นว่า โรคมะเร็งไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด สิ่งที่สำคัญที่สุดคือจิตใจของคุณ จะต้องยอมรับตัวเองตอนนี้ให้ได้ ถึงจะมีอนาคตอันสดใสเข้ามา”