ความรู้สึกเมื่อตัวเองเกือบต้องพบยมบาลมันเป็นยังไง?หร่วนเค่อจางวัย77ปีมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในเรื่องนี้ในปี2553หร่วนเค่อจางได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารระยะลุกลามเขามาที่โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวสแตมฟอร์ดและได้รับการรักษาแบบบาดแผลเล็กจำนวน7ครั้งตอนนี้ผ่านไป13ปีแล้วหร่วนเค่อจางไม่จำเป็นต้องกลับไปตรวจสุขภาพและเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลอีกต่อไปเขาเอาชนะคำทำนายของแพทย์เวียดนามที่กล่าวว่าเขาจะมีชีวิตอยู่ได้เพียง3-4เดือนและมีชีวิตใหม่ที่สุขภาพดีและแข็งแรง
หร่วนเค่อจางไม่ยอมแพ้ในขณะที่คนส่วนใหญ่คิดว่าการเป็นโรคมะเร็งระยะสุดท้ายเท่ากับตายเพียงสถานเดียวเขาเอาชนะมะเร็งได้สำเร็จและยืนหยัดเพื่อที่จะอยู่รอดได้ด้วยมือของเขาเองเมื่อเราถามเขาเกี่ยวกับความรู้สึกเมื่อเอาชนะโรคมะเร็งได้สำเร็จหร่วนเค่อจางพูดเพียงสองคำเท่านั้น:ยืนหยัด!
หร่วนเค่อจางเป็นเจ้าหน้าที่ของกระทรวงกลาโหมเวียดนามเขาช่วยเหลือชาวเวียดนามมาตลอดชีวิตหลังจากเกษียณอายุหร่วนเค่อจางและครอบครัวมีความสุขกับชีวิตมากชีวิตของหร่วนเค่อจางสงบสุขและมีความสุขมาตลอดจนกระทั่งเป็นโรคมะเร็งกระเพาะอาหารในปี2553ชีวิตที่สวยงามของเขาก็พังทลายลง
>>หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมะเร็ง กรุณาคลิกเพื่อปรึกษาแพทย์
“ตอนนั้นเราพบว่าผิวหน้าของพี่มีสีเหลืองพอพาไปตรวจที่โรงพยาบาลก็พบเนื้อร้ายขนาดใหญ่ในท้อง”น้องสาวของหร่วนเค่อจางเล่าให้เราฟังถึงอาการป่วยของพี่ชายในขณะนั้นหลังจากทราบว่าเขาเป็นมะเร็งครอบครัวของหร่วนเค่อจางได้พาเขาไปที่โรงพยาบาลVietnam 108เพื่อรับการผ่าตัดและกระเพาะอาหารของเขาได้ถูกผ่าออกสามในสี่ส่วนอย่างไรก็ตามหลังการผ่าตัดรักษาหร่วนเค่อจางมีไข้สูงมะเร็งมีการแพร่กระจายไปยังปอดของเขาและอาการของเขาก็พัฒนาไปสู่ระยะลุกลามด้วยเหตุนี้หร่วนเค่อจางจึงสูญเสียความมั่นใจในการรักษาพยาบาลของเวียดนาม
“ผมบังเอิญเห็นรายงานเกี่ยวกับโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวสแตมฟอร์ดในข่าว“ชีวิตและสุขภาพ”ของเวียดนามและได้เรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีการรักษามะเร็งแบบบาดแผลเล็กขั้นสูงอย่างไรก็ตามเนื่องจากหนังสือพิมพ์ตีพิมพ์เฉพาะที่อยู่สำนักงานเท่านั้นไม่มีช่องทางติดต่อจึงไปค้นหาเบอร์ติดต่อของสำนักงานที่ไปรษณีย์จากนั้นไม่นานก็นัดหมายเพื่อที่จะไปขอคำปรึกษาด้วยตนเองด้วยความช่วยเหลือจากล่ามประจำสำนักงานและคำอธิบายโดยละเอียดของผู้เชี่ยวชาญและหลังจากเปรียบเทียบกับและทำความเข้าใจแล้วผมจึงตัดสินใจไปโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวสแตมฟอร์ด”หร่วนเค่อจางเล่า
>>หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมะเร็ง กรุณาโทรเบอร์ 0610367888 0907099666 เพื่อปรึกษาแพทย์
“พอครอบครัวได้ยินว่าผมอยากไปรักษาที่จีนก็คัดค้านไม่ให้ผมไปรักษาในที่ๆไกลขนาดนั้นแต่ตอนนั้นผมเข้าใจแล้วว่าที่นี่มีเทคโนโลยีการรักษาที่ล้ำหน้ามากผมเชื่อมั่นว่าผมสามารถได้รับการรักษาที่ดีกว่าจากที่นี่”หร่วนเค่อจางกล่าวในเดือนกรกฎาคม2553เขามาที่โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวสแตมฟอร์ดพอตรวจร่างกายอีกครั้งพบว่านอกจากปอดแล้วหลอดอาหารและตับยังมีการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งและอาการของเขาแย่ลงมาก
“ทีมแพทย์ที่นี่(MDT)ใช้การคีโมเฉพาะจุดเคมีบำบัดและธรรมชาติบำบัดในการรักษาผมเนื่องจากผมอายุค่อนข้างมากแพทย์จึงผสมผสานการแพทย์แผนจีนกับตะวันตกและจ่ายยาจีนให้ผมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพภูมิคุ้มกันในร่างกายหลังจากรักษาได้สักระยะอาการก็ทรงตัวกลับเวียดนามก็กินยาตรงเวลาทุกวันตรวจสุขภาพทุก3เดือนไม่พบน้ำหรือความผิดปกติใดๆในช่องท้องและค่าชี้วัดต่างๆเป็นปกติดีทุกอย่าง”
ในเวลานั้นเนื่องจากแผนการคีโมเฉพาะจุดและธรรมชาติบำบัดที่ทีมแพทย์กำหนดให้หร่วนเค่อจางจำเป็นต้องใช้เวลาในการบรรเทาอาการของเขาพอสมควรด้วยสภาพร่างกายของหร่วนเค่อจางที่ไม่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในระยะเวลาอันสั้นทำให้เริ่มมีเสียงคัดค้านคนส่วนใหญ่มักคิดว่ามะเร็งระยะสุดท้ายทำได้แค่ละทิ้งการรักษา
แม้ว่าครอบครัวจะรู้สึกคลางแคลงใจและถูกคนอื่นคัดค้านแต่ก็ไม่สามารถทำให้ความเชื่อมั่นในการรักษาของหร่วนเค่อจางสั่นคลอน“มีเพียงผมเท่านั้นที่รับรู้การเปลี่ยนแปลงในร่างกายของตัวเอง”หร่วนเค่อจางกล่าว“หลังการรักษาครั้งนั้นผมรู้สึกได้ชัดเจนว่าร่างกายกำลังฟื้นตัวแล้วสิ่งที่สำคัญที่สุดในการรักษาคือการยืนหยัดการเชื่อใจคุณหมอหมดหัวใจขอแค่เรามุ่งมั่นก็จะสามารถหลุดพ้นจากปัญหาของมะเร็งสุดท้าย”หร่วนเค่อจางกล่าวอย่างเด็ดเดี่ยว
>>หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมะเร็ง กรุณาโทรเบอร์ 0610367888 0907099666 เพื่อปรึกษาแพทย์
8ปีผ่านไปนับตั้งแต่ที่เขาเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเป็นครั้งแรกเขามีชีวิตที่แข็งแรงเดินตอนเช้าบ่ายและเย็นเป็นประจำทุกวันนอกจากนี้ในฐานะประธานสโมสรต่อต้านมะเร็งป๋ออ้ายเขายังมีส่วนร่วมในการบรรยายด้านสุขภาพที่จัดขึ้นโดยสำนักงานโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวสแตมฟอร์ดสาขาฮานอยเพื่อแบ่งปันประสบการณ์รักษามะเร็งของตัวเองถ่ายทอดพลังบวกเพื่อให้กำลังใจผู้ป่วยมะเร็งเขากล่าวว่า"มะเร็งไม่ได้น่ากลัวสิ่งสำคัญที่สุดคือการทำจิตใจให้สงบเราต้องมั่นใจในเทคโนโลยีทางการแพทย์ในปัจจุบันและมุ่งมั่นหาทางรักษามันพอมีเทคโนโลยีใหม่เข้ามามะเร็งก็ไม่น่ากลัวเลย"
เมื่อวันที่1มีนาคม2561เนื่องในเทศกาลโคมไฟหร่วนเค่อจางได้เข้าร่วมงานสมาคมผู้พิชิตมะเร็งที่จัดโดยสำนักงานของโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวสแตมฟอร์ดสาขาฮานอยตามประเพณีเวียดนามพวกเขาจะไปวัดเพื่อจุดธูปและอธิษฐานขอให้ชีวิตสงบสุขสุขภาพแข็งแรงและมีความสุข
ในปี2566สำนักงานโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่สแตมฟอร์ดกว่างโจวสาขาฮานอยได้ติดต่อสอบถามอาการเขาเขายังคงเดินทุกวันและใช้ชีวิตในแต่ละวันอย่างร่าเริง