เลี่ยวเจี้ยนฟู่อายุ53ปีมาจากจาการ์ตาประเทศอินโดนีเซียเขาเป็นผู้ป่วยมะเร็งกระเพาะอาหารในเดือนมกราคมปี2558เลี่ยวเจี้ยนฟู่รู้สึกไม่สบายท้องและปวดท้องมากโดยเฉพาะก่อนทานอาหารหลังทานอาหารอาการดีกว่านิดหน่อยเขามีอาการดังกล่าวต่อเนื่องเป็นเวลานานเลี่ยวเจี้ยนฟู่คิดว่ากระเพาะอาหารของเขาอาจจะมีปัญหาจึงไปตรวจที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในประเทศมาเลเซีย

เลี่ยวเจี้ยนฟู่และภรรยา

ผลการตรวจพบว่าเลี่ยวเจี้ยนฟู่ป่วยเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารระยะ3เขาตกใจและประหลาดใจมากผลลัพธ์ดังกล่าวเขาไม่สามารถรับได้เลยจริงๆเขาเคยคิดว่ากระเพาะอาหารเขาน่าจะผิดปกติแต่ไม่คิดว่าจะถึงขึ้นเป็นมะเร็งหลังจากทราบข่าวไม่เพียงแต่เขาเท่านั้นภรรยาและลูกชายของเขาต่างก็ตกใจกับข่าวร้ายที่เกิดขึ้นกะทันหันแต่พวกเขาจำต้องดึงสติกลับมาและปลอบใจเลี่ยวเจี้ยนฟู่

>>หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมะเร็ง กรุณาคลิกเพื่อปรึกษาแพทย์

อาการเริ่มเข้าสู่ขั้นที่ร้ายแรงมากและทันทีที่ผลการตรวจออกมาแพทย์แนะนำให้เขาเข้ารับการผ่าตัดและเคมีบำบัดแต่เลี่ยวเจี้ยนฟู่ผู้ซึ่งได้รับข่าวร้ายกลับไม่เห็นด้วยเขาพอจะมีความรู้เรื่องมะเร็งอยู่บ้างเขาเข้าใจถึงความลำบากจากการรักษาการผ่าตัดและเคมีบำบัดแบบเดิมๆนั้นเป็นอันตรายต่อร่างกายมากเขายังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะรับการรักษาหรือไม่อย่างไรก็ตามด้วยกำลังใจจากภรรยาและลูกชายที่คอยอยู่เคียงข้างทำให้เขามีความกระตือรือร้นมากขึ้นโดยหวังว่าจะมีวิธีอื่นในการรักษาโรคของเขา

ดร.หลินจิงกับเลี่ยวเจี้ยนฟู่และภรรยาของเขา

ขณะที่เลี่ยวเจี้ยนฟู่และครอบครัวของเขากำลังวิ่งเต้นค้นหาวิธีการรักษาโรคมะเร็งเพื่อนเก่าของเขาก็ได้นำข่าวดีมาให้เขาเพื่อนคนนั้นก็เป็นผู้ป่วยมะเร็งเช่นกันหลังจากเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวสแตมฟอร์ดร่างกายของเขาก็ดีขึ้นมากเมื่อเห็นเลี่ยวเจี้ยนฟู่อยู่ในสภาพเจ็บปวดเหมือนที่ตัวเองเคยเผชิญเพื่อนจึงแนะนำให้เขาไปโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่สแตมฟอร์ดกว่างโจวเพื่อเข้ารับการรักษาคำพูดของเพื่อนเก่าเขาสร้างความมั่นใจให้แก่เลี่ยวเจี้ยนฟู่ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจไปรับการรักษาโรคมะเร็งที่ประเทศจีนเมื่อวันที่24มกราคม2558เลี่ยวเจี้ยนฟู่พร้อมด้วยภรรยาของเขาเดินทางถึงโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวสแตมฟอร์ด

>>หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมะเร็ง กรุณาโทรเบอร์ 0610367888  0907099666 เพื่อปรึกษาแพทย์

หลังจากการตรวจร่างกายอย่างละเอียดทีมแพทย์MDTของโรงพยาบาลได้วางแผนการรักษาที่เหมาะสมสำหรับเลี่ยวเจี้ยนฟู่อย่างรวดเร็วตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงวันที่25สิงหาคมเลี่ยวเจี้ยนฟู่เข้ารับการคีโมเฉพาะจุด4ครั้งธรรมชาติบำบัด2ครั้งและการฉายแสงเลเซอร์1ครั้งปัจจุบันอาการของเลี่ยวเจี้ยนฟู่ถูกควบคุมเป็นอย่างดีและเนื้องอกเล็กลงถึง80%เมื่อเทียบกับช่วงแรกในระหว่างการรักษาเขาไม่พบผลข้างเคียงความอยากอาหารและการนอนหลับเป็นปกติสิ่งที่ทำให้เขาลืมไม่ลงคือช่วงเวลาหลังการบำบัดด้วยการฉายแสงเลเซอร์เนื่องจากเขาไม่สามารถเจอแสงได้เลี่ยวเจี้ยนฟู่จึงอยู่อย่างเงียบๆในความมืดเป็นระยะเวลา15วันแพทย์บอกเขาว่าสภาพจิตใจเป็นสิ่งสำคัญเขาไม่กล้าคิดฟุ้งซ่านรอจนแสงสว่างขับไล่ความมืดออกไป

ผู้ที่ก้าวผ่านเส้นทางแห่งความเลวร้ายอย่างเลี่ยวเจี้ยนฟู่รู้สึกซาบซึ้งในชีวิตจริงๆเขารู้สึกขอบคุณคุณหมอหลินจิงเป็นอย่างมากสำหรับการดูแลเอาใจใส่ชื่นชมสิ่งแวดล้อมและการบริการของโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวสแตมฟอร์ด

ในอนาคตเขาอยากจะเดินทางไปเที่ยวทั่วโลกเพื่อชมธรรมชาติที่สวยงามกับภรรยาของเขาเขาอยากจะช่วยเหลือผู้อื่นมากขึ้นช่วยเหลือผู้ป่วยมะเร็งในโลกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

ในไม่ช้าเลี่ยวเจี้ยนฟู่จะเข้ารับการฉายแสงเลเซอร์เป็นครั้งที่2เขาหวังว่าการรักษาครั้งนี้จะสามารถกำจัดเนื้องอก20%ที่เหลือได้ผมขอให้ได้มีชีวิตที่มีความสุขแข็งแรงและอายุยืนยาว!